กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--กู๊ด มอร์นิ่ง มันเดย์
คงไม่มีใครอยากประสบกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของผู้เป็นที่รักในครอบครัว เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้กำกับดัง “แดงซ่า-นพดล มงคลพันธ์” และครอบครัวของ “อ๊อฟ-อภิชาต พัวพิมล” รวมถึงครอบครัวของดาวตลกชื่อดัง “ดี๋ ดอกมะดัน” ที่กำลังรอปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง …ซึ่งทั้งหมดนี้มีที่มาจากอาการ “ หืดกำเริบ”
ผลสำรวจทั่วโลกพบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคหืดประมาณ 300 ล้านคน และมีอัตราการเสียชีวิตวันละประมาณ 250,000 คน โดยในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคหืดกว่า 4 ล้านคน !!
แม้โรคหืดไม่ใช่โรคร้ายแรงที่สุด ...ไม่ใช่โรคที่คร่าชีวิตคนมากที่สุด ...แต่เป็นโรคหนึ่งในโรคที่สร้างความทรมานอย่างมาก...หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง
เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการจากราชวิทยาลัย สมาคม สถาบัน และหน่วยงานที่ร่วมดูแลผู้ป่วยโรคหืดในประเทศไทยกว่า 10 สถาบัน ได้ร่วมมือผนึกกำลัง เปิดตัว “สภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย” หรือ Thai Asthma Council — TAC ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ เข้าใจและตระหนักถึงอันตรายจากโรคหืด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดการควบคุมโรคหืดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเบื้องต้นนี้จะนำแนวทางการรักษาโรคหืดฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด ที่ชื่อว่า GINA Guideline เข้าไปสู่ทั้งหน่วยงานและองค์กรที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหืด เพื่อสร้างมาตรฐานการดูแลรักษาให้ไปทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ
สำหรับงานเปิดตัว สภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย—TAC ได้รับเกียรติจากคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหืด ร่วมเสวนาร่วมกับผู้ป่วยโรคหืด อาทิ ป้ารัชนีกุล อุตมะพรหม อดีตข้าราชการบำนาญ วัย 57 ปี ที่ป่วยเป็นโรคหืดร่วมค่อนชีวิต และคิดว่าโรคหืดเป็นโรคเวรโรคกรรมไม่มีวันรักษาได้ จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะอาการหืดกำเริบ....“ป้าเป็นโรคหืดมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ เป็นตามกรรมพันธุ์ เวลานอนก็หลับไม่สนิทต้องนั่งหลับเท่านั้น โดยเอาหมอนมารองหน้าอกไว้ เพราะไม่รู้ว่าอาการหอบหรือหายใจไม่ออกจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทรมานมากๆ จึงอยากฝากบอกกับทุกคนว่าอย่าละเลยการดูแลสุขภาพ ต้องรีบปรึกษาหมอ และต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง จะได้กลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง”
ผู้ป่วยโรคหืดจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง อาทิ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด และหนึ่งในนั้น ก็ต้อง เริ่มจากครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่ให้การดูแลผู้ป่วยโรคหืด อย่างเช่นครอบครัวของ คุณเอริโกะ มโนมัยพิบูลย์ อาจารย์สอนพิเศษภาษาญี่ปุ่นที่มีลูกชายฝาแฝด “น้องเคนชัง และชินจัง” ซึ่งป่วยเป็นหืดตั้งแต่อายุเพียง 9 เดือน ได้เล่าว่า “ คุณแม่ทุกๆคนหรือผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคหืดต้องศึกษาข้อมูลของโรคหืดให้เข้าใจ และควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ตามนัดหมาย ใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทุกวันนี้ลูกชายทั้งสองคนก็สามารถเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมต่างๆได้เหมือนคนปกติทั่วไปแล้ว”
ทางด้าน รศ.พญ.ชลีรัตน์ ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าหน่วยงานภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า “ เด็ก 1 ใน 3 ที่หายใจแล้วมีเสียงหวีดๆ หรือมีอาการไอเรื้องรัง เป็นหวัดบ่อย และมีอาการไอรุนแรง ประมาณ 7-10 วัน ก็อาจจะเป็นอาการของโรคหืดได้ ซึ่งหากมารักษาหมอก็จะต้องทำการถามประวัติว่ามีคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นโรคหืดหรือไม่ หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นก็วินิจฉัยได้เลยว่ามีโอกาสเป็นหืดอย่างแน่นอน แต่โรคหืดนั้น หากรู้จักวิธีการรักษาโดยใช้ยาพ่น หรือปฏิบัติตัวตามคำสั่งคุณหมอ ก็สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ เรียกได้ว่า สามารถควบคุมโรคหืดได้ ....สิ่งสำคัญอย่านิ่งนอนใจเมื่อพบว่ามีอาการของหืดเกิดขึ้น”
ขณะที่ บีม-พรรณวรินทร์ ศรีสวัสดิ์ ลูกสาวดาวตลกชื่อดัง เป็นหนึ่งในครอบครัวที่มีผู้ป่วยเป็นหืดถึง 3 คน ได้แก่ ตัวบีม น้องสาว-เบลล์ และคุณพ่อ (ดี๋) โดยบีมเล่าให้ฟังว่า “หากใครที่ไม่ได้คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคหืด ก็จะรู้สึกว่ามันรุนแรงมาก แต่โรคนี้มีข้อดีอย่างตรงที่เราสามารถควบคุมมันได้ก่อนที่อาการจะกำเริบ ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้ดูแลตัวเองได้ดีหรือเปล่า หรือมีญาติให้ความสนใจใส่ในมากแค่ไหน ซึ่งครอบครัวบีมก็มีคุณแม่ที่ดูแล และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดอาการหืดกำเริบ อาทิ ฝุ่น ควันบุหรี่ ขนสัตว์ เกสรดอกไม้บางชนิด เป็นต้น ซึ่งถ้าหากเราดูแลตัวเองดีก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิตค่ะ เพราะโรคหืดนั้นมีหลายขั้นตอน อย่างแรกเราควรที่จะทำการทดสอบสมรรถภาพปอดว่าหลอดลมอักเสบมากขนาดไหน และใช้ยาควบคู่กันค่ะ”
ด้านดาราสาวผัดไท-นิลุบล อมรวิทวัส ซึ่งมักจะคุ้นตาในบทบาทนักแสดง อารมณ์ขัน ซึ่งภายใต้ฉากความบันเทิงเหล่านั้น เธอก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดเช่นกัน “ผัดเป็นหืดจากกรรมพันธุ์ค่ะและสิ่งแวดล้อมด้วยเพราะเป็นคนที่แพ้ง่าย เมื่อก่อนจะไม่ค่อยดูแลมากนัก จึงอยากฝากบอกกับทุกคนว่าอย่าชะล่าใจ ต้องใส่ใจ ควรจะหัดสังเกตว่าตนแพ้สิ่งใด และหาทางหลีกเลี่ยง และที่สำคัญต้องหาความรู้เกี่ยวกับโรคหืด ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วก็ต้องขอขอบคุณ TAC หรือ สภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทยมากๆ เพราะจะส่วนผลักดันให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหืดสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ โดยไม่ต้องทุกข์ใจหรือกังวลใจ”
พอ.พิเศษ นพ. อดิศร วงษา แพทย์แผนกอายุรกรรม รพ.พระมงกุฏเกล้า หนึ่งในคณะกรรมการการจัดตั้ง TAC กล่าวว่า “สำหรับผู้ป่วยที่ต้องทำงานหรืออยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเป็นหืด หรือแม้แต่ดารานักแสดงอย่างน้องบีม หรือ ผัดไท เป็นสิ่งที่ยากมากที่จะเลี่ยงไม่ให้เจอกับสิ่งเร้า เพราะด้วยอากาศและมลภาวะบ้านเมืองที่ต้องเจอจากการเดินทาง สิ่งแรก คือ ต้องรู้จักระวังหรือปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัว เมื่อถึงเวลาพ่นยาทานยาก็ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะโรคหืดนั้นมีปัจจัยมาจากทั้งพันธุกรรม และสภาพแวดล้อม สาเหตุมาจากหลอดลมมีการอักเสบเรื้อรังทำให้ไวต่อสิ่งกระตุ้น เมื่อผู้ป่วยเจอสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นก็จะทำให้หลอดลมหดเกร็ง หายใจลำบาก มีเสียงวี๊ด ๆ วิธีการรักษาคือใช้ยาต้านการอักเสบเพื่อควบคุมโรคและยาขยายหลอดลมเพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งมีทั้งแบบพ่น ฉีด กิน หากใช้ยาอย่างสม่ำเสมอก็จะสามารถควบคุมหรืออาการของโรคหืดได้”
โรคหืดไม่ใช่ มัจจุราชที่น่ากลัว และไม่ใช่โรคที่คร่าชีวิตคนไปอย่างง่าย หากผู้ป่วยรู้จักควบคุม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และใช้ยาอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ผู้ป่วยโรคหืดทุกคน ! ก็จะเป็นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของลมหายใจที่ไร้เสียงหวีดตลอดไป และสามารถดำเนินชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป เพราะโรคหืด...ควบคุมได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ภรณ์ธณัฐ สถิรกุล หรือฐิภา จิ๋วแก้ว
ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ บริษัท กู๊ด มอร์นิ่ง มันเดย์ จำกัด
โทร . 02-953-9624-5 ต่อ 801 , 806
แฟกซ์ 02-953-9265
E — mail : gmmonday2020@yahoo.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net