กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. แจ้งให้บริษัทนายจ้างที่ยังไม่ได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 หรือจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วและมีเงินทุนสำรองเลี้ยงชีพลูกจ้าง หรือที่เรียกว่า “เงินประเดิม” ที่ประสงค์จะนำเข้ากองทุน สามารถยื่นคำขอต่อ ก.ล.ต. ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2554
นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. ในฐานะนายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขอแจ้งให้นายจ้างเร่งนำเงินประเดิมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งนายจ้างและลูกจ้าง โดยเงินประเดิมที่นายจ้างได้จ่ายสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นสามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีของนายจ้างได้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 274 (พ.ศ. 2553) ซึ่งออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้เปิดให้นายจ้างยื่นคำขอนำเงินประเดิมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้เป็นครั้งสุดท้าย โดยเงินประเดิมจะต้องเป็นเงินที่นายจ้างจัดสรรไว้หรือลูกจ้างสะสมไว้ตามโครงการที่นายจ้างจัดให้มีตั้งแต่ก่อนพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 ใช้บังคับเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2530 หากนายจ้างมีเงินประเดิมแต่ไม่ได้ยื่นคำขอนำเงินประเดิมเข้ากองทุนต่อ ก.ล.ต. ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2554 และภายหลังต้องการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะไม่สามารถโอนเงินเก่าเข้ามาในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จัดตั้งขึ้นได้อีกต่อไป”
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thaipvd.com