คอนติเนนทอลพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 28, 2010 16:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส คอนติเนนทอลผลิตต้นแบบมอเตอร์พลังงานไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์พร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมากเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2553 การผลิตเป็นจำนวนมากจะเริ่มเป็นครั้งแรกในยุโรปที่เมืองกิฟฮอร์น ในปี 2554 คอนติเนนทอลคือผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญสำหรับยานยนต์พลังงานไฟฟ้า การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าและไฮบริดของคอนติเนนทอลอยู่ในเบอร์ลิน คอนติเนนทอลพร้อมแล้วที่จะมุ่งเป็นส่วนหนึ่งของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต: โดยคอนติเนนทอลได้เปิดประเดิมริเริ่มเริ่มเรื่องยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในระดับชาติที่ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในประเทศซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลกอย่างคอนติเนนทอล ซึ่งมีศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีไฮบริดอยู่ในเมืองโมอาบิท กรุงเบอร์ลิน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจำนวน 280 คนได้ริเริ่มการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการขับขี่ส่วนบุคคล หากทุกอย่างเป็นไปตามที่รัฐบาลเยอรมนีได้ให้คำมั่นเอาไว้ในเรื่อง “แผนพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าเแห่งชาติ” จะมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 1 ล้านคันบนท้องถนนในเยอรมนีในปี 2563 โดยผลงานต้นแบบเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ถูกผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2553 ที่โรงงานของคอนติเนนทอลในเมืองกิฟฮอร์น โลเวอร์ แซคโซนี และจะมีการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าวในปริมาณมากในอีกไม่ช้า “เกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน เป็นที่แน่ชัดว่า การแข่งขันเพื่อก้าวไปสู่เทคโนโลยีการขับเคลื่อนแห่งอนาคตกำลังเป็นไปอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ดี เหล่านี้หมายถึงการลงทุนครั้งมโหฬารซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้มีอำนาจไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง และวิทยาศาสตร์ ดังนั้น เราจึงอยากเรียกร้องให้ภาคการเมืองวางแผนงานให้มีกรอบเวลารองรับไปจนถึงอีกหลายสิบปีข้างหน้า ซึ่งสิ่งนี้เท่านั้นที่จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์สามารถระดมสรรพกำลังได้อย่างเพียงพอ และได้รับการผลักดันให้ก้าวหน้าไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี” ดร. เอลมาร์ เดเกนฮาร์ท ประธานกรรมการบริหารของคอนติเนนทอล กล่าว เทคโนโลยีการขับขี่แบบใหม่ได้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่แท้จริงแล้วโดยคอนติเนนทอล ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จในการยกระดับการพัฒนาในห้องทดลองและการทดสอบแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ มาเป็นการผลิตในภาคอุตสาหกรรม “คอนติเนนทอลได้ผลักดันการพัฒนาชิ้นส่วนสำคัญของเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้ามาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เราได้รับใบสั่งผลิตหลายต่อหลายครั้งและเราก็มีความเต็มใจอย่างยิ่งที่จะนำความรู้และประสบการณ์ของเราไปใช้ในการสนับสนุน ‘แผนพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าเแห่งชาติ’ ซึ่งทวีความสำคัญมากขึ้นในขณะนี้” ดร. เดเกนฮาร์ท เสริม ในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แบตเตอรี่ลิเธียมเจ้าแรกในระดับโลก คอนติเนนทอลได้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม มาตั้งแต่ปี 2551 สำหรับใช้ในโมเดลมาตรฐาน เมอเซเดส S400 ไฮบริด โดยแบตเตอรี่ดังกล่าว ใช้สำหรับเก็บรักษาพลังงานที่ได้จากมอเตอร์ไฟฟ้าและมีส่วนช่วยประหยัดน้ำมันในขณะที่เครื่องยนต์ต้นกำลังทำงานในรูปแบบ mild hybrid ที่มีอยู่ในรถยนต์ S คลาส เปลี่ยนรถยนต์ธรรมดา ๆ ให้เป็นซีดานสุดหรู สมรรถนะสูง นอกจากนี้ คอนติเนนทอลยังได้ทำการทดลองที่ก้าวไกลในเรื่องวงจรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยผลิตภัณฑ์รุ่นที่ 3 มีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นแรก ๆ ถึง 30% ด้วยขนาดที่กะทัดรัดของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ คอนติเนนทอลยังสามารถผลิตชิ้นส่วนสำคัญสำหรับรถไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดซึ่งได้แปลงไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่เป็นไฟฟ้ากระแสสลับสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า ในทางกลับกันก็สามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ถูกผลิตขึ้นมาเอาไว้ในแบตเตอรี่ในขณะที่รถเบรกอยู่ได้เช่นกัน อีกย่างก้าวสำคัญ: การผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าในจำนวนมากที่โรงงานในกิฟฮอร์น เริ่มตั้งแต่ปี 2554 คอนติเนนทอลจะผลิตระบบส่งกำลังไฟฟ้าแบบสมบูรณ์เพื่อผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป “ในการนี้ เราได้ลงทุน 12 ล้านยูโร ที่โรงงานในเมืองกิฟฮอร์น โลเวอร์แซคโซนี ด้วยกำลังการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า 60,000 ชุด ต่อปีในระยะเริ่มแรก ซึ่งนับเป็นชิ้นส่วนสำคัญชิ้นที่สามสำหรับเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นอกเหนือไปจากแบตเตอรี่ และวงจรอิเล็กทรอนิกส์” มร.โจเซ อาวีลา หัวหน้าธุรกิจระบบส่งกำลังของคอนติเนนทอลกล่าว ขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง C (ซึ่งหมายถึงสถานภาพทางเทคนิคก่อนได้รับการอนุมัติให้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์มาตรฐาน)กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาสายการผลิตในกิฟฮอร์น ภายใต้การนำของศูนย์พัฒนาในเบอร์ลิน “ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีที่มีอนาคตและน่าจับตามอง จึงเป็นสาเหตุให้เราลงทุนเพื่อก้าวสู่การผลิตในภาคอุตสาหกรรม เราจะผลักดันให้เทคโนโลยีเพื่อรถไฟฟ้าออกสู่ท้องถนนโดยเร็วที่สุด” มร.อาวีลา กล่าวเพิ่มเติม มอเตอร์ไฟฟ้า-เทคโนโลยีที่มีระดับในตัวเอง มอเตอร์ไฟฟ้าจากโรงงานในกิฟฮอร์นซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 60 — 75 กิโลวัตต์สามารถสร้างแรงบิดได้อย่างน่าทึ่งขึ้นอยู่กับโมเดลที่ใช้ หลังจากที่สตาร์ทรถแล้ว มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถทำงานได้เสมือนปราศจากเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเท่ากันอยู่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น มอเตอร์จากโรงงานในกิฟฮอร์นมีน้ำหนักเพียง 65 กิโลกรัม (ต้องขอบคุณความก้าวหน้าด้านการผลิตชิ้นส่วนให้มีขนาดกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา) เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้แบบดั้งเดิม ซึ่งมีน้ำหนักอยู่ระหว่า 80 — 150 กิโลกรัม ไม่รวมชุดเกียร์ ขึ้นอยู่กับแต่ละผู้ผลิตและแต่ละโมเดล กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำลำดับต้นๆ ของโลก มียอดขายในปี 2552 มากกว่า 20 พันล้านยูโร ในฐานะที่กลุ่มคอนติเนนทอล เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญ ได้แก่ ระบบเบรก ระบบและชิ้นส่วนสำหรับระบบส่งกำลังและแชสซี หน้าปัดรถยนต์ อุปกรณ์เพิ่มความบันเทิงในรถยนต์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์ ยางรถยนต์และยางสังเคราะห์ เป็นต้น กลุ่มคอนติเนนทอล มุ่งมั่นพัฒนาระบบและส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด อีกทั้งร่วมกันปกป้องสภาพแวดล้อมของโลกด้วย นอกจากนี้ คอนติเนนทอล ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็งในการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารที่ใช้ในยานยนต์ ปัจจุบัน กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น มีพนักงานประมาณ 138,000 คน ในสำนักงานใน 46 ประเทศทั่วโลก กลุ่มยานยนต์คอนติเนนทอล เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ลำดับต้นๆ ของโลก ประกอบด้วย 3 ส่วนธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจแชสซีและความปลอดภัย (ยอดขาย 4.4 พันล้านยูโร พนักงาน 27,000 คน) ธุรกิจระบบส่งกำลัง (ยอดขาย 3.4 พันล้านยูโร พนักงาน 24,000 คน) และธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ (ยอดขาย 4.4 พันล้านยูโร พนักงานมากกว่า 27,000 คน) ในปี 2552 กลุ่มยานยนต์สามารถสร้างยอดขายรวมมากกว่า 12 พันล้านยูโร กลุ่มยานยนต์ มีสำนักงานกว่า 130 แห่งทั่วโลก ในฐานะพันธมิตรของอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้มีการพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนและระบบที่เป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อยานยนต์แห่งโลกอนาคตซึ่งรถยนต์สามารถตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล ให้ความเพลิดเพลินในการขับ มีความปลอดภัยในการขับขี่สูง อีกทั้งยังปกป้องสภาพแวดล้อมของโลกและราคาประหยัดคุ้มค่าด้วย ธุรกิจแชสซีและความปลอดภัย พัฒนาและผลิตระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรกไฮดรอลิก ระบบควบคุมแชสซี เซ็นเซอร์ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ระบบควบคุมถุงลมนิรภัยด้วยไฟฟ้าแลเซ็นเซอร์ ระบบปัดน้ำฝน เช่นเดียวกับ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ความสามารถหลักของสายงานนี้คือ การบูรณาการระบบป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและระบบปกป้องหลังเกิดอุบัติเหตุไปสู่แนวคิดความปลอดภัยของคอนติการ์ด ส่วนธุรกิจระบบส่งกำลัง จะผสมผสานนวัตกรรม และระบบส่งกำลังยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ธุรกิจนี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายรวมถึงหัวฉีดแก๊สโซลีนและดีเซล ระบบจัดการเครื่องยนต์ ระบบควบคุมเกียร์ เซ็นเซอร์ และแอคทูเอเตอร์ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงและชิ้นส่วน รวมทั้งระบบสำหรับรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า การจัดการข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ ซึ่งเน้นการจัดการข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญ ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ภายในรถยนต์และหน้าปัดแสดงข้อมูล หน่วยควบคุม ระบบการเปิดปิดรถยนต์อัตโนมัติ ระบบตรวจสอบยางรถ วิทยุ ระบบมัลติมีเดียและระบบนำทาง ระบบควบคุมอุณหภูมิ เทเลมาติกส์ โมดุลที่นั่งคนขับ ผลิตภัณฑ์และบริการเสริมอื่น ๆ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ คุณปัณรษี ไทยวัชรามาศ บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด โทรศัพท์ 0-2651-8989 ต่อ 222 อีเมล์ panarasee@prassociates.net www.continental-corporation.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ