กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--วว.
วว. เจ๋งวิจัยแผ่นฝ้าเพดานจากเศษเยื่อเหลือทิ้งอุตสาหกรรมกระดาษ
ผนึกกำลังเอกชนเตรียมผลิตเชิงพาณิชย์...ใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประสบความสำเร็จนำเศษเยื่อเหลือทิ้งจากบ่อบำบัดน้ำเสียโรงงานเยื่อกระดาษ/เศษวัสดุเหลือทิ้งประเภทเส้นใยธรรมชาติ สู่การทดลองผลิตชิ้นงานตัวอย่าง “แผ่นฉนวนกันความร้อน” สำหรับใช้กับฝ้าเพดาน/แผ่นประกอบฝาผนังกั้นห้องในระดับห้องปฏิบัติการ ระบุมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะต่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาการกำจัดของเสีย ร่วมรักษาสภาพแวดล้อมโดยรวม
นางสาวพิศมัย เจนวณิชปัญจกุล รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา วว. กล่าวชี้แจงว่า ฝ่ายสิ่งแวดล้อม นิเวศวิทยาและพลังงาน ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของเส้นใยธรรมชาติที่เป็นวัสดุซึ่งมีคุณสมบัติด้านความเป็นฉนวน การต้านทานความร้อนและน้ำหนักเบา จึงได้นำเศษเยื่อเหลือทิ้งจากบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานผลิตเยื่อกระดาษและเศษวัสดุเหลือทิ้งประเภทเส้นใยธรรมชาติ มาทดลองผลิตแผ่นฉนวนกันความร้อนสำหรับใช้กับฝ้าเพดานและแผ่นประกอบฝาผนังกั้นห้องในระดับห้องปฏิบัติการ ซึ่งผลการทดลองพบว่า แผ่นชิ้นงานตัวอย่างสามารถขึ้นรูปได้สวยงาม โดยให้สมบัติด้านการเป็นฉนวน การต้านทานความร้อนที่ดี มีน้ำหนักเบา สะดวก และเหมาะต่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“วว. ได้นำเสนอแผ่นชิ้นงานฉนวนกันความร้อนจากเศษเยื่อเหลือทิ้งให้แก่บริษัทไทยโปรดักซ์ เอ็นไวรอนเม็นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในโอกาสที่เข้ามาหารือและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการนำวัสดุเหลือทิ้งมาใช้ประโยชน์ในการผลิตผลิตภัณฑ์ด้านวัสดุก่อสร้าง และได้นำมาสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในโครงการการศึกษากรรมวิธีผลิตแผ่นฝ้าเพดาน จากเศษเยื่อเหลือทิ้งของอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ เพื่อศึกษากรรมวิธีผลิตแผ่นฝ้าเพดานฯ ดังกล่าว สู่การนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยมุ่งหมายให้ได้ค่าโมดูลัสการแตกร้าวตามมาตรฐาน มอก. เป็นหลัก ด้านความเป็นฉนวนกันความร้อนและน้ำหนักเบา เป็นสมบัติรองลงมาตามลำดับ นับเป็นการบริหารจัดการเศษเยื่อเหลือทิ้งทางอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาการกำจัดของเสียและยังเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าควบคู่กันไปด้วย ” รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา วว. กล่าว
นางรมณีย์ หวังดีธรรม นักวิชาการ ฝ่ายสิ่งแวดล้อม นิเวศวิทยาและพลังงาน วว. ในฐานะหัวหน้าโครงการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือระหว่าง วว. และบริษัทไทยโปรดักซ์ เอ็นไวรอนเม็นท์ จำกัด มีระยะเวลา 1 ปี โดย วว. จะทำการรวบรวมและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติและกรรมวิธีผลิตฝ้าเพดานจากเศษเหลือทิ้ง ทดลองหาส่วนผสมที่เหมาะสมในการผลิตแผ่นฝ้าเพดานจากเศษเหลือทิ้ง โดยการปรับเปลี่ยนวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในส่วนผสม ทดลองขึ้นรูปแผ่นฝ้าเพดานโดยใช้หลักการแบบ pulp molding หากรรมวิธี อุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสมในการอบแห้งแผ่นฝ้าเพดาน โดยคงรักษาโครงสร้างและสมบัติแผ่นฝ้าเพดานไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและ วว. จะถ่ายทอดวิธีการผลิตแผ่นฝ้าเพดานจากเศษเยื่อเหลือทิ้งให้อก่บริษัทไทยโปรดักซ์ เอ็นไวรอนเม็นท์ จำกัด ด้วย