‘ตัน ภาสกรนที’ ประกาศวางมือธุรกิจ “โออิชิ กรุ๊ป”

ข่าวทั่วไป Thursday July 29, 2010 13:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--โพลีพลัส พีอาร์ นายตัน ภาสกรนที ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการจากตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หลังบริหารงานภายใต้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สร้างตลาดเครื่องดื่มชาเขียวให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเป็นกลุ่มธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และกำไร โดยการยุติบทบาท "กรรมการผู้จัดการ" ของนายตัน มีเหตุผลหลักในการถ่ายเลือดสร้างพลังใหม่ เพื่อให้เกิดความคิดมุมมองและแนวทางการบริหารการตลาด รูปแบบใหม่ๆ โดยการลาออกครั้งนี้ จะมีผลในวันที่ 9 กันยายน 2553 ตัน ภาสกรนที ก่อตั้งบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 9 เดือนกันยายน 2542 เริ่มจากโออิชิ ภัตตาคารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นสาขาแรกที่ถนนทองหล่อ ปัจจุบันโออิชิ กรุ๊ป แบ่งธุรกิจหลักออกเป็น กลุ่มธุรกิจอาหาร และธุรกิจเครื่องดื่ม สำหรับธุรกิจอาหารประกอบไปด้วย ร้านอาหารในเครือจำนวนทั้งสิ้น 111 สาขา ธุรกิจเครื่องดื่มประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ กรีนที, อะมิโน พลัส และกาแฟพร้อมดื่มคอฟฟิโอ ปี 2553 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขาย 8,400 ล้านบาท โออิชิ กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2547 ราคาเสนอขายในขณะนั้น 19 บาท ทุนจดทะเบียน 375 ล้านบาท จากนั้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2549 มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นครั้งใหญ่ โดยขายหุ้นให้กับ บริษัท นครชื่น จำกัด และ Bengina International Co.,Ltd. ในราคาหุ้นละ 32.50 บาท เป็นการก้าวเข้าไปอยู่ภายใต้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมี นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 89.9% ขณะที่ปัจจุบันหุ้นโออิชิ มีราคา 70 บาท และมีมูลค่าตลาด 13,125 ล้านบาท นอกจากปรากฏการณ์การปลุกกระแสอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพให้เป็นที่นิยมในประเทศไทยด้วยร้านอาหารที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์ All You Can Eat แห่งแรกเมื่อวันที่ 9-9-1999 โออิชิ กรุ๊ป ภายใต้การบริหารของตัน ภาสกรนที ยังสร้างปรากฏการณ์ชาเขียวฟีเวอร์ ด้วยแคมเปญระดับ Talk of The Town หลายครั้งนับตั้งแต่ รวยฟ้าผ่า 30 ฝาแจก 30 ล้าน เมื่อปี 2547 ส่งผลให้โออิชิ กรีนที กลายเป็นผู้นำอันดับ 1 ตลาด ชาเขียวพร้อมดื่มได้ตั้งแต่ปีแรก ตามมาด้วยแคมเปญ ไปแต่ตัวทัวร์ยกแก๊ง 3 ปีซ้อน เช็คช่วยชาติกับโออิชิ มอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ได้รับเช็คอุดหนุนรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เที่ยวทั่วไทยไปยกแก๊ง กิจกรรมชวนคนไทยรวมก๊วนไปเที่ยวส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ โออิชิ รวมพลังสร้างความดี 9 กิจกรรมกระตุ้นเยาวชนรุ่นใหม่ให้ทำความดีในรูปแบบสนุกสนานและหลากหลาย โออิชิ คอสเพลย์ แอนด์ คัฟเวอร์แดนซ์ คอนเทสต์ รวมกลุ่มชุมชนเยาวชนชาวคอสเพลย์ให้สร้างสรรค์ผลงานการแต่งกายตามแบบการ์ตูนและเกมส์ออนไลน์ที่ ชื่นชอบ และล่าสุดกับงาน ศอช. ศูนย์อำนวยพื้นที่ในการช้อปปิ้ง โครงการช่วยเหลือเร่งด่วนด้วยการมอบพื้นที่จำหน่ายสินค้าฟรีให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ผ่านมา กิจกรรมทั้งหมดดังกล่าวส่งผลให้โออิชิคงความเป็นผู้นำอันดับ 1 มาตลอด 7 ปี ในปีนี้โออิชิ กรีนที ยังครองส่วนแบ่งตลาดชาเขียว 63% สร้างมูลค่าตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในประเทศไทยให้สูงกว่า 10,000 ล้านบาทในปัจจุบัน ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ กรุ๊ป ก็ยึดตำแหน่งผู้นำตลาดอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 50% ของตลาดธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี ตันก็พิสูจน์ให้เห็นว่า อาณาจักรโออิชิ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร โดยเมื่อปี 2549 โออิชิมียอดขาย 3.95 พันล้านบาท กำไร 189 ล้านบาท ถัดมาปี 2550 รายได้เพิ่มเป็น 4.68 พันล้านบาท ขณะที่มีกำไรถึง 558 ล้านบาท ปี 2551 มีรายได้ 5.99 พันล้านบาท กำไร 592 ล้านบาท ส่วนปี 2552 รายได้พุ่งขึ้นเป็น 7.16 พันล้านบาท และกำไร 751 ล้านบาท ส่วนปีนี้คือปี 2553 ในไตรมาสแรก เพียงไตรมาสเดียวตัวเลขยอดขายขึ้นไปที่ 2.16 พันล้านบาท และกำไร 193 ล้านบาท นายตัน ชี้แจงว่า “ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปีภายใต้กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผลประกอบการของโออิชิ กรุ๊ป มีการเจริญเติบโตตามเป้าหมายเฉลี่ยมากกว่า 20% ทุกปี และนับจากวันที่ขายหุ้นให้กับกลุ่มบริษัท ไทยเบฟฯ ผมได้มีสัญญาใจในการรับบริหารงานต่ออีก 3 ปี ปัจจุบันก็ล่วงเลยมาเกือบ 5 ปี สร้างผลประกอบการที่ดีขึ้นทุกๆ ปี ปัจจุบันคาดว่าบริษัทฯ จะทำยอดขายได้ถึง 8,400 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทฯ มีความมั่นคงมากขึ้นทั้งระบบการบริหารงาน ความรู้ความสามารถของบุคลากร และรากฐานของการพัฒนาด้านเทคโนโลยี การวางมือในตอนนี้คิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว” “ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 5,000 คน ซึ่งเป็นพนักงานที่มีคุณภาพ มีการวางแผนงานอย่างมีระบบ และเตรียมแผนถ่ายเลือดเก่า สร้างผู้บริหารคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน เพื่อสร้างสรรค์การตลาดแนวคิดใหม่ๆ ให้ธุรกิจมากขึ้น ผมจึงขอลาออกจากการเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แต่ยังมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมที่จะตอบแทนสังคม เพราะสังคมได้ให้โอกาสและสนับสนุนผมตลอดมา นับตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เมื่อผมประสบความสำเร็จจนมาถึงวันนี้ จึงตั้งใจอย่างยิ่ง ที่จะสานต่อโครงการต่างๆ ที่ตนเองได้เริ่มสร้างไว้ อาทิ โครงการปลูกป่า ภาสกรถาวร , โรงเรียนอนุบาลบ่อทอง จ.ชลบุรี ฯลฯ และริเริ่มโครงการใหม่ๆ เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับสังคม” “ผมต้องขอขอบคุณผู้บริโภคที่ให้การสนับสนุนร้านอาหารและผลิตภัณฑ์ของโออิชิด้วยดีตลอดมา รวมไปถึงพนักงานกว่า 5,000 คน คู่ค้าทั่วประเทศ ซัพพลายเออร์ทุกรายที่ให้ความช่วยเหลือโออิชิ กรุ๊ปให้ก้าวมาเป็นอันดับหนึ่งจนถึงทุกวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโออิชิ กรุ๊ป จะยังคงได้รับการสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ตลอดไป” นายตัน กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ