กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--แอสเซท พลัส
กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท (ASP-SMART) และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) จ่ายคืนผลตอบแทนต่อเนื่อง คิดเป็นอัตราการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัตินับตั้งแต่ต้นปี 53 รวม 35% และ 20% ของเงินลงทุนเริ่มแรกตามลำดับ ส่วนกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 4 (ASP-SMART4) รับซื้อคืนหน่วยลงทุนครั้งแรกที่ 5% คาดหากตลาดยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจสามารถปิดกองทุนที่เป้าหมาย 10% ก่อนครบอายุกองทุน 1 ปี
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นจากความคาดหวังว่าผลการทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคารในยุโรป (Stress Test) ของธนาคารในยุโรปจะออกมาดี และมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยจากการปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดได้
สำหรับสัปดาห์นี้ ถึงแม้จะมีความกังวลในเรื่องปัจจัยด้านความไม่สงบในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเกี่ยวกับธุรกิจกลุ่มโทรคมนาคม แต่คาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะยังสามารถปรับตัวได้อีกระดับหนึ่งจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างอยู่ในเชิงบวก อาทิ ผลการทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคารในยุโรปและตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ การปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีปี 53 มาอยู่ที่ระดับ 6.5 — 7.5% เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในครึ่งแรกของปี ขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้ และการส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติกลับมาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดจากการเปิดสถานะซื้อ (Long) ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า
นางลดาวรรณ กล่าวว่า การปรับตัวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้ส่งผลดีให้กับกองทุนหุ้นกลุ่ม SMART ของบริษัท โดยสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท (ASP-SMART) กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 3 (ASP-SMART3) และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 4 (ASP-SMART4) สามารถจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรากองทุนละ 0.50 บาทต่อหน่วย
นางลดาวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนหุ้นกลุ่ม SMART ของบริษัท เป็นกลุ่มกองทุนที่เน้นการบริหารกองทุนเชิงรุกทั้งด้านการคัดเลือกหุ้นและการจับจังหวะซื้อขาย โดยไม่ได้คำนึงถึงน้ำหนักการลงทุนของดัชนี เพื่อสร้างผลตอบแทนเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เป็นหลัก ทั้งนี้ กองทุนสามารถทยอยรับซื้อคืนหน่วยลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี กองทุน ASP-SMART และ ASP-SMART3 มีอัตราการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติรวม 35% และ 20% ของเงินลงทุนเริ่มแรก ตามลำดับ ทั้งนี้ ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2553 กองทุน ASP-SMART และ ASP-SMART3 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ต้นปีที่ 21.25% และ 21.50% ตามลำดับ ขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้น 14.39% ในช่วงเวลาเดียวกัน
สำหรับ กองทุน ASP-SMART4 ที่จัดตั้งกองทุน เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 โดยกองทุนมีเป้าหมายผลตอบแทน 10% โดยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับผ่าน 10.50 บาทต่อหน่วย และปิดกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนผ่านระดับ 11.00 บาท หรือเมื่อครบอายุกองทุน 1 ปี แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดก่อนนั้น กองทุน ASP-SMART4 สามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนที่ระดับ 5% ของเงินลงทุนเริ่มแรกได้แล้ว จากมูลค่าหน่วยลงทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นผ่าน 10.50 บาทต่อหน่วยหรือ 5% ของเงินลงทุนเริ่มแรก ทั้งนี้ หากตลาดยังคงสามารถปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะส่งผลดีต่อกองทุนให้สามารถปิดกองทุนได้ก่อนครบอายุกองทุน 1 ปี
ทั้งนี้ สำหรับแผนการนำเสนอกองทุนหุ้นกลุ่ม SMART นางลดาวรรณ เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเตรียมเสนอขายกองทุน ASP-SMART6 เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผู้ลงทุนเดิม จากการคาดการณ์จังหวะของตลาดว่าหลังจากที่ตลาดสามารถปรับตัวขึ้นจนถึงระดับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานแล้ว อาจมีการปรับฐาน ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนรอบใหม่
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111
สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์
มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 / 02-672-1019 (เบอร์ตรง)
อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th