กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทในโครงการ Medium-term Debenture วงเงินรวม 40,000 ล้านบาทของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (“TLT” หรือ “ผู้ออกหุ้นกู้”) ที่ระดับ “AAA” ในขณะเดียวกันยังประกาศคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดปัจจุบันมูลค่ารวม 27,200 ล้านบาทในโครงการเดียวกันของบริษัทที่ระดับ “AAA” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่”
ทริสเรทติ้งรายงานว่าหุ้นกู้ดังกล่าวค้ำประกันโดย Toyota Motor Finance (Netherlands) B.V. (“TMF” หรือ “ผู้ค้ำประกัน”) โดย TMF เป็นบริษัทลูกของ Toyota Financial Service Corporation (TFS) ที่ถือหุ้น 100% โดย Toyota Motor Corporation (TMC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มโตโยต้า บริษัททั้ง 3 แห่งคือ TMF, TFS และ TMC ได้รับการจัดอันดับเครดิตระดับ “AA” จาก Standard & Poor’s (S&P) และระดับ “Aa2” จาก Moody’s Investors Service (Moody’s) รวมทั้งได้รับการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นที่ระดับ “A-1+” จาก S&P และ “P-1” จาก Moody’s ด้วย
อันดับเครดิตของ TMF, TFS และ TMC ได้รับการปรับลดจากระดับ “Aa1” เป็น “Aa2” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” โดย Moody’s เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 การปรับลดอันดับเครดิตอยู่บนพื้นฐานของการคาดการณ์ว่า TMC จะมีความสามารถในการทำกำไรในระดับต่ำในช่วงเวลาที่ยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ผลประกอบการทางการเงินของ TMC ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและการหดตัวของอุปสงค์รถยนต์ในช่วงปี 2551-2552 นอกจากนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพผลิตภัณฑ์รถยนต์และการเรียกคืนรถซึ่งเริ่มเกิดเมื่อปลายเดือนมกราคม 2553 ยังเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่กดดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัท การเรียกคืนรถจะก่อให้เกิดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงที่อาจทำให้ผลประกอบการทางการเงินของ TMC ฟื้นตัวช้าลง อย่างไรก็ตาม TMC ยังมีผลประกอบการที่มีกำไรในรอบปีบัญชี 2553 (เมษายน 2552-มีนาคม 2553) หลังจากขาดทุนอย่างหนักในรอบปีบัญชี 2552 ผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวและสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่งเป็นสาเหตุให้ S&P ออกประกาศยืนยันผลอันดับเครดิตของ TMF, TFS และ TMC ที่ระดับ “AA” เช่นเดิม ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2553
TMC รายงานผลประกอบการสำหรับรอบปีบัญชี 2553 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 โดยมีกำไรสุทธิ 209 พันล้านเยน เทียบกับผลขาดทุน 437 พันล้านเยนสำหรับรอบปีบัญชี 2552 ฐานะการเงินในรอบปีบัญชี 2553 ที่ปรับตัวดีขึ้นนั้นเกิดจากความพยายามในการลดต้นทุนจากโครงการ Emergency Profit Improvement Program รวมทั้งการลดต้นทุนคงที่ และการมีผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจการให้บริการทางการเงินเป็นสำคัญ ซึ่งความพยายามดังกล่าวเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบด้านลบจากยอดขายที่ลดลงและความเสียเปรียบด้านอัตราแลกเปลี่ยน TMC รายงานยอดขายรถยนต์ของบริษัทในประเทศญี่ปุ่นสำหรับไตรมาสแรกของรอบปีบัญชี 2554 (เมษายน 2553-มิถุนายน 2553) ซึ่งเพิ่มขึ้น 27.4% จากช่วงเดียวกันของปีบัญชี 2553 แม้ว่ายอดขายในประเทศญี่ปุ่นจะคิดเป็นเพียง 30% ของยอดขายรวมของ TMC ในรอบปีบัญชี 2553 แต่คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามการฟื้นตัวของภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก
ทริสเรทติ้งกล่าวถึงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ระยะปานกลางของ TLT ว่าสะท้อนถึงการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย TMF ซึ่งอันดับเครดิตของ TMF อยู่บนพื้นฐานของสถานะอันดับเครดิตของ TMC ภายใต้โครงสร้างการค้ำประกันดังกล่าว TMC ได้ทำสัญญาให้การสนับสนุนสินเชื่อ (Credit Support Agreement หรือ CSA) กับ TFS ในขณะเดียวกัน TFS ก็ได้ทำสัญญา CSA กับ TMF ด้วยเช่นกัน ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา CSA ดังกล่าว TMC จะทำหน้าที่รักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับรองรับภาระหนี้หุ้นกู้ หรือพันธบัตร และตราสารทางการเงิน (Commercial Paper) อื่นๆ ของบริษัทลูกซึ่งได้แก่ TFS และ TMF นอกจากนี้ TMC จะเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอสำหรับเงื่อนไขการค้ำประกันของ TMF ด้วย ทั้งนี้ การค้ำประกันของ TMF บังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์โดยเป็นการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ ซึ่งผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระเงินตามกำหนดเวลาของหุ้นกู้แต่ละชุดที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของ TLT ทั้งนี้ ภาระการค้ำประกันของ TMF มีสถานะทางกฎหมายอยู่ในระดับเดียวกับตราสารหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่นๆ ของผู้ค้ำประกันที่ออกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากการยินยอมทั้งจากตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ค้ำประกันได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ำประกันไม่มีภาระในการชำระหนี้ใดใดแทนในกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระหนี้ด้วยเหตุอันเกิดจากการเข้าแทรกแซง หรือการกระทำต่างๆ โดยองค์กรใดใดของรัฐบาลไทย ดังนี้ (1) ชะงักการชำระเงินเนื่องจากผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถโอนเงินไปให้นายทะเบียน หรือผู้ถือหุ้นกู้ หรือไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นสกุลเงินที่ต้องชำระตามหุ้นกู้ (2) ทำให้ต้องมีการโอนการถือหุ้นข้างมากหรือการควบคุมผู้ออกหุ้นกู้ไปยังองค์กรอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกของกลุ่มโตโยต้า (3) การเวนคืนหรือการโอนซึ่งทรัพย์สินของผู้ออกหุ้นกู้ให้เป็นของรัฐซึ่งมีมูลค่ารวมอย่างน้อย 10% ของมูลค่าสุทธิของสินเชื่อเช่าซื้อสุทธิของผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ และ (4) การเวนคืนหรือการโอนทรัพย์สินให้เป็นของรัฐอันมีผลทำให้ผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสที่จะเกิดน้อยมาก
ในส่วนของแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” นั้น ทริสเรทติ้งกล่าวว่าสะท้อนความน่าเชื่อถือของบริษัทแม่ลำดับสุดท้ายของ TLT คือ TMC ซึ่งมีสถานะที่เข้มแข็งในตลาดการค้าที่สำคัญแม้ว่าจะอ่อนตัวลงจากผลกระทบของปัญหาด้านคุณภาพสินค้า โดยความเข้มแข็งดังกล่าวเกิดจากการขยายขอบเขตธุรกิจสู่ภูมิภาคต่างๆ และการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ปัจจุบัน ทั้ง S&P และ Moody’s กำหนดแนวโน้มอันดับเครดิตของ TMC เป็น “Negative” หรือ “ลบ” ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลต่อความสามารถในการทำไรที่อ่อนแอและผลกระทบจากปัญหาคุณภาพสินค้า อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตในปัจจุบันที่ระดับ “AA” ซึ่งจัดโดย S&P และ “Aa2” โดย Moody’s ยังคงสะท้อนสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งของ TMC เมื่อเทียบกับบริษัทต่างๆ ที่ได้รับอันดับเครดิตในระดับ National Scale ที่ “AAA” จากทริสเรทติ้ง
บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT)
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงิน 40,000 ล้านบาท ในโครงการ Medium-term Debenture:
- TLT108A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่AAA
- TLT10NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่AAA
- TLT10NB: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่AAA
- TLT112A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่AAA
- TLT112B: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่AAA
- TLT114A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่AAA
- TLT124A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่AAA
- TLT128A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่AAA
- TLT129A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่AAA
- TLT12DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่AAA
- TLT134A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่AAA
- TLT136A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่AAA
- TLT13DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่AAA
- หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2558 AAA แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)