ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. วิทยุการบินแห่งประเทศไทย” ที่ระดับ “AA/Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 3, 2010 10:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ที่ระดับ “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของการให้บริการเดินอากาศ รวมถึงสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการแต่เพียงรายเดียว สถิติด้านความปลอดภัยที่ดี และคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ นอกจากนี้ การสนับสนุนจากรัฐบาลยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มสถานะเครดิตให้แก่บริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากภาระหนี้จำนวนมาก และความเสี่ยงของอุตสาหกรรมการบินที่เกิดจากปัจจัยภายนอกหลายประการที่ไม่สามารถควบคุมได้ แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการจราจรทางอากาศเพียงรายเดียวของประเทศ ตลอดจนการสนับสนุนทางอ้อมจากภาครัฐ และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ทั้งอันดับเครดิตและแนวโน้มอาจมีการเปลี่ยนแปลงหากบริษัทไม่สามารถสร้างความสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่าย ตลอดจนรักษาสถานะสภาพคล่องให้เพียงพอในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าได้ ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทยเป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งรัฐบาลถือหุ้น 91% และที่เหลืออีก 9% ถือหุ้นโดยสายการบินต่าง ๆ รัฐบาลไทยในฐานะรัฐภาคีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization -- ICAO) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบให้ความปลอดภัยในบริการขนส่งทางอากาศเหนือน่านฟ้าประเทศไทยได้มอบหมายให้บริษัทเป็นผู้ให้บริการจราจรทางอากาศ ซึ่งรวมถึงระบบและเทคโนโลยีสำหรับการเดินอากาศของประเทศซึ่งถือเป็นบริการหลักในการให้ความปลอดภัยแก่การขนส่งทางอากาศ ในปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ให้บริการดังกล่าวเพียงรายเดียวของประเทศ พื้นที่รับผิดชอบของบริษัทคือเขตแถลงข่าวการบินกรุงเทพฯ (Bangkok Flight Information Region -- BKK FIR) บริษัทให้บริการจราจรทางอากาศ ข่าวสารการเดินอากาศ และเทคโนโลยีการเดินอากาศตามมาตรฐานและระเบียบวิธีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ การดำเนินงานของบริษัทขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญ โดยงบประมาณการลงทุนต้องได้รับการเห็นชอบจากกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี ส่วนงบประมาณดำเนินการต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัทซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม โดยคณะกรรมการของบริษัทจำนวน 9 คนจาก 11 คนได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาล ส่วนอีก 2 คนเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นที่เป็นสายการบินสมาชิก ในขณะที่อัตราค่าบริการต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการบินพลเรือน ทริสเรทติ้งกล่าวว่ารายได้ของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทยมากกว่า 90% มาจากการให้บริการจราจรทางอากาศ รูปแบบการคิดค่าบริการเป็นลักษณะที่ต้องชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยค่าบริการเรียกเก็บจากสายการบินที่ได้ต่ำกว่าต้นทุนในบางปีจะได้รับการชดเชยจากค่าบริการเรียกเก็บที่มากกว่าต้นทุนในปีถัดไป อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยและความวุ่นวายทางการเมืองในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาส่งผลทำให้ปริมาณเที่ยวบินลดลงต่ำกว่าที่ได้ประมาณการไว้ ในขณะที่บริษัทยังไม่สามารถเพิ่มค่าบริการเพื่อชดเชยรายได้ในส่วนที่ลดลงได้ในทันที ในปีงบประมาณ 2552 ปริมาณเที่ยวบินลดลง 9.1% จากปีที่ผ่านมา ทำให้รายได้ของบริษัทลดลง 7% โดยอยู่ที่ระดับ 4,781 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ค่าบริการรอเรียกเก็บสะสมจากบริษัทการบินที่เป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ระดับ 650 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2552 จากระดับ 120 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2551 เงินทุนจากการดำเนินงานก็ลดลงจากระดับ 575 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2551 สู่ 173 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2552 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอ่อนตัวลงจาก 11.3% ในปีงบประมาณ 2551 เป็น 3.3% ในปีงบประมาณ 2552 แม้ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2553 เนื่องจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกและการลดความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แต่ ความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2553 กลับเป็นปัจจัยลดความเชื่อมั่นและความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบในด้านลบต่อปริมาณเที่ยวบินและผลการดำเนินงานของบริษัท ดังนั้นจึงคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ที่ต่ำกว่าต้นทุนอีกในปีนี้ อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกและการขึ้นค่าบริการ บริษัทคาดว่าจะสามารถชดเชยส่วนของค่าบริการรอเรียกเก็บสะสมจากบริษัทการบินที่เป็นสมาชิกได้ภายใน 3 ปี อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ระดับประมาณ 88% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีการกู้ยืมเงินเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ในการลงทุน โดยเฉพาะสำหรับการลงทุนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่หมดอายุ บริษัทอยู่ในระหว่างขั้นตอนการของบประมาณจำนวน 4,460.31 ล้านบาทจากรัฐบาลเพื่อใช้เป็นทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริการการเดินอากาศซึ่งประกอบด้วย การจัดตั้งศูนย์บริหารการจราจรทางอากาศ การเพิ่มขีดความสามารถของระบบเทคโนโลยีจราจรทางอากาศ การพัฒนาระบบเชื่อมต่อโครงข่ายการบริการจราจรทางอากาศทั่วประเทศ และการจัดซื้ออากาศยานบินทดสอบ การลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นผู้ให้บริการการเดินอากาศในระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอาจลดลงหากงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเป็นลักษณะการเพิ่มทุน แม้ว่าฐานะการเงินของบริษัทจะอ่อนตัวลง แต่สถานะทางธุรกิจยังคงแข็งแกร่งจากการมีสถานภาพเป็นผู้ให้บริการจราจรทางอากาศเพียงรายเดียวและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ ทริสเรทติ้งกล่าว บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (AEROTHAI) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ AA แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ