กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--ปตท.
ผลจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐฯ และกลุ่มโอเปกจะเริ่มลดกำลังการผลิตลง
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2550 เป็นต้นมา น้ำมันในตลาดโลกได้อ่อนตัวลง ซึ่ง ปตท. ได้เป็นผู้นำในการประกาศลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไปแล้วอย่างต่อเนื่องถึง 4 ครั้ง (เบนซินลดลง 3 ครั้ง รวม 1.30 บาท/ลิตร และดีเซลลดลง 2 ครั้ง รวม 0.80 บาท/ลิตร)
หลังจากการปรับลดราคาขายปลีกครั้งล่าสุด (18 ม.ค.50) ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้กลับมาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันของสหรัฐฯ (สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. 50) ลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 130 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศเขตหนาวคาดว่าจะยังคงหนาวเย็นต่อไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อน (Heating Oil) สูงขึ้นถึง 11% โดย EIA รายงานความต้องการใช้ของสหรัฐฯ สัปดาห์ล่าสุด เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 4.151 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะเดียวกันกลุ่มประเทศโอเปกจะเริ่มลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ทำให้ล่าสุดในวันนี้ (2 ก.พ. 50) น้ำมันดิบดูไบ ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 54.73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 5.64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 64.64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 6.55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และน้ำมันดีเซล ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 70.24 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 5.98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ส่งผลให้ต้นทุนเนื้อน้ำมันปรับสูงขึ้นและมีผลกระทบต่อค่าการตลาดที่ต่ำมากคืออยู่ที่ระดับ 60 สตางค์/ลิตร (ค่าการตลาดที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอยู่ที่ระดับ 1.20 — 1.50 บาท/ลิตร) ปตท. จึงจำเป็นต้องพิจารณาปรับราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซลขึ้น 40 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. ศกนี้ (เวลา 05.00 น.) เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันในเขต กทม. และปริมณฑล เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 25.59
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 24.09
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 24.79
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 22.94
น้ำมัน พีทีทีไบโอดีเซล / น้ำมันดีเซล-ปาล์มบริสุทธิ์ 22.44
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ กล่าวต่อไปว่า ปตท. ได้พยายามรักษาระดับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศให้คงราคาเดิมไว้ให้นานที่สุด แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นมาตลอดในช่วง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมาเพื่อให้มีผลกระทบต่อผู้บริโภคน้อยที่สุด แต่เนื่องจากต้นทุนเนื้อน้ำมันมีสูงมากเกินความสามารถที่จะรับภาระแทนได้ และกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งระบบ จึงจำเป็นต้องพิจารณาปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าว ซึ่งผู้บริโภคทุกท่านควรช่วยกันใช้พลังงานอย่างประหยัดและเท่าที่จำเป็นจริงๆ ก็จะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2538
โทรสาร 0 2537 2572, 2517