นีลเส็นเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยถดถอย ในไตรมาสที่2

ข่าวทั่วไป Wednesday August 4, 2010 15:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--นีลเส็น ความเชื่อมั่นลด 3 จุดมาที่ระดับ 92 แต่ยังคงขึ้น 11 จุด จากจุดที่ต่ำที่สุดในไตรมาสที่ 1 ของปี่ที่แล้ว การสำรวจออนไลน์ของผู้บริโภคทั่วโลกชิ้นล่าสุดจาก นีลเส็น ผู้นำด้านการวิจัยทางการตลาดและข้อมูลชั้นนำของโลก พบว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศไทยลดลงเล็กน้อยจากระดับที่ 95 ในไตรมาสที่1 ของปี มาที่ 92 ในขณะที่ระดับความเชื่อมั่นลดลง 3 จุด แต่หากเทียบกับจุดต่ำสุดที่ ระดับ 81 ในไตรมาสที่1 ของปีที่แล้วก็ยังพบว่าเพิ่มขึ้นมามากถึง 11 จุด คุณแอรอน ครอส กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี ประเทศไทย กล่าวว่า “เราจะเห็นได้ชัดมากว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และไม่น่าแปลกใจเลยที่ ผู้บริโภคดูเสมือนจะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น การหาสิ่งบันเทิงนอกบ้าน แต่ในทางกลับกัน การใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น เช่นสินค้าอุปโภค บริโภค ยังคงดำเนินไปตามปกติ ข้อมูลของนีลเส็นระบุว่า ยอดขายของสินค้าอุปโภค บริโภค ยังคงเติบโตได้ดีในเชิงปริมาณที่ 3.7 % .ในครึ่งปีแรก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ” หากดูความเชื่อมั่นเฉลี่ยของผู้บริโภคทั่วโลก ในไตรมาสที่ 2 พบว่าเพิ่มขึ้นเพียงหนึ่งจุด มาที่ระดับ 93 เนื่องจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มมากขึ้นจากประเทศในแถบเอเชียได้มาชดเชย กับความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคชาวยุโรปเกี่ยวกับ วิกฤตทางการเงินและหนี้สิน หากดูจากสิบลำดับแรกทั่วโลกที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากที่สุดจะพบว่า หกในสิบอันดับแรกของโลกมาจาก ประเทศในแถบเอเชีย โดยลำดับแรกของโลกที่พบว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นสูงที่สุดในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้คือ อินเดีย (129 ) อินโดนีเซีย และเวียดนาม ( 119 เท่ากัน ) โดยระดับความเชื่อมั่นของเวียดนามเพิ่มมากที่สุดถึง 18 จุด มาแตะที่ระดับ 119 (ตารางที่ 1 ) การสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคในรอบล่าสุดของนีลเส็นนี้ ถูดจัดทำระหว่างวันที่ 10 ถึง 26 พฤษภาคม2553 ท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งผลการสำรวจพบสิ่งที่น่าสนใจดังนี้ ผู้บริโภคยังคงรู้สึกไม่สดใสกับหนทางข้างหน้า ในประเทศไทย ผู้บริโภคจำนวนเจ็ดสิบหกเปอร์เซ็นต์ คิดว่าเศรษฐกิจในประเทศของตนอยู่ในสภาวะถดถอย โดยเพิ่มขึ้นจากระดับที่เจ็ดสิบเอ็ด จากการสำรวจในไตรมาสแรกของปี และในกลุ่มคนที่คิดว่าประเทศไทยอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย นีลเส็นพบผู้บริโภคจำนวน ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ เชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะสิ้นสุดภายในหนึ่งปี ในขณะที่ อีก สี่สิบสองเปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าภาวะนี้จะยืดยาวเกินหนึ่งปี ในด้านความคาดหวังในด้านการงาน การสำรวจพบว่าผู้บริโภคชาวไทยหกสิบสองเปอร์เซ็นต์ มีความคิดว่าโอกาสในด้านการงานของตนยังไม่ค่อยดีนัก ในอีก 12 เดือนข้างหน้านี้ เพิ่มขึ้นจาก ห้าสิบหกเปอร์เซ็นต์ใรไตรมาสที่ 1 ของปี สัดส่วนของผู้บริโภคที่มีความมั่นใจกับสถานะทางการเงินของตนว่าดีและดีมากก็ลดลงจาก ห้าสิบสามเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสที่ 1 มาที่ ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่สอง โดยผู้บริโภคเพียงสามสิบแปดเปอร์เซ็นต์เชื่อว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการซื้อสินค้าที่ตนต้องการในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ผู้บริโภคชาวไทยออมเงินมากลำดับที่สองของโลก ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในลำดับที่สองของโลก ที่พบคนออมเงินมากที่สุดรองจากฮ่องกง โดยมีผู้บริโภคชาวไทยมากถึง เจ็ดสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ที่ต้องการออมเงิน หลังจากการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันแล้ว ทางเลือกอื่นๆที่นิยมเป็นลำดับต่อมา คือ การท่องเที่ยว (48 %) การซื้อสินค้าเทคโนโลยี่ใหม่ๆ (28 %) การตกแต่งบ้าน และการชำระหนี้ บัตรเครดิต หรือการกู้ยืม (25% เท่ากัน) เป็นลำดับ นีลเส็นยังเผยผลสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับการซื้อของและการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคชาวไทย โดยผลการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยมากถึง แปดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าพวกเขาเปลี่ยพฤติกรรมการใช้จ่ายของเขาเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยพยายามลดรายจ่ายดังต่อไปนี้ ? ตัดการซื้อเสื้อผ้าใหม่ (56%) ? ประหยัดค่าไฟ (56%) ? ลดสิ่งบันเทิงนอกบ้าน (54%) ? ประหยัดค่าโทรศัพท์ (41%) ปัญหาความมั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคชาวไทยกังวลมากที่สุดในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองยังคงติดอยู่ในใจผู้บริโภคชาวไทย โดยผู้บริโภคยี่สิบสามเปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าตนมีความกังวลมากในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในโลกเกี่ยวกับความกังวลในเรื่องของการเมือง อันดับรองลงมาคือ ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ (17 %) ภาวะโลกร้อน (8%) และความมั่นคงทางด้านการงาน (7%) ตามลำดับ เกี่ยวกับการสำรวจ ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นและความคิดเห็นออนไลน์ของผู้บริโภคทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายในการสำรวจระดับความเชื่อมั่น, พฤติกรรม/แนวโน้มการใช้จ่าย ปัจจัยกังวลของผู้บริโภคทั่วโลก ระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคถูกประเมินจาก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับตลาดงาน สถานภาพทางการเงิน และความพร้อมในการใช้จ่าย การสำรวจครั้งล่าสุดถูกจัดทำขึ้นในช่วงวันที่ 10 -26 พฤษภาคม 2553 จากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 27,000 คน จาก 48 ประเทศ ใน ทวีปยุโรป เอเชียแปซิฟิค อเมริกาเหนือ ละติน อเมริกาและ ประเทศในแถบตะวันออกกลาง ตารางที่ 2 สิบลำดับแรกของโลกที่พบผู้บริโภคออมเงินมากที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ