กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ปภ.
กรมป้องกันฯ เตือนประชาชนระวังภัยจากต้นไม้ล้มหักโค่นทับบ้านเรือนในช่วงเกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ โดยให้ตัดกิ่งไม้ที่ไม่แข็งแรง และโค่นต้นไม้ทิ้งทันทีหากสังเกตว่าเสี่ยงต่อการล้มทับบ้านเรือน
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในช่วงฤดูร้อน มักเกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากต้องระวังลูกเห็บตก ลมพายุพัดกระหน่ำ และฟ้าผ่า สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว อันตรายที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงดังกล่าว ก็คือ ต้นไม้หักโค่นล้มทับบ้านเรือนหรือกีดขวางทางจราจร กรมป้องกันฯ จึงขอเตือนให้ประชาชนป้องกันอันตรายจากต้นไม้ล้มหักโค่น ดังนี้ ก่อนเกิดพายุฤดูร้อน ให้สำรวจบริเวณรอบบ้าน หากพบ กิ่งไม้ที่ไม่แข็งแรง ให้ตัดทิ้ง หากเป็นกิ่งเล็ก กิ่งน้อยที่มีใบมาก ควรตัดทอนใบออก เพราะหากเกิดพายุอาจทำให้กิ่งไม้หักโค่นลงมา สำหรับต้นไม้ที่ไม่แข็งแรง เช่น ต้นไม้ชนิดที่ไม่มีแก่นหรือโคนต้นถูกน้ำกัดเซาะจนรากลอย ให้จัดการโค่นหรือตัดทิ้งทันที เพราะเมื่อโดนลมพายุพัดจะหักโค่นได้ง่ายและเสี่ยงต่อการล้มทับบ้านเรือนได้ และควรตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกติดกับตัวบ้านออก เพราะหากลมพายุพัดแรงจัด ต้นไม้อาจหักมาทับหลังคา
บ้านเรือน ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่พักอาศัยภายในบ้านเรือนได้ ในขณะเกิดพายุ หากจอดรถไว้ใต้ร่มไม้ ควรนำรถออกมาจอดในที่โล่งหรือบริเวณที่มีหลังคาจะปลอดภัยมากกว่า และไม่ควรจอดรถหลบลมพายุใต้ร่มไม้ริมทางอย่างเด็ดขาด ควรจอดในสถานที่ที่ปลอดภัย เช่น ศาลาริมทางหรือสถานีบริการน้ำมัน ที่สำคัญ ไม่ควรยืนอยู่ใต้ต้นไม้ เพราะอาจได้รับอันตรายจากต้นไม้โค่นล้มทับหรือกิ่งไม้หล่นใส่และเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าได้
หลังจากเกิดพายุ หากมีต้นไม้หรือกิ่งไม้หักโค่น ควรเก็บทำความสะอาดให้เรียบร้อยและควรเก็บกวาดด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจได้รับอันตรายจากเศษไม้แหลมที่เกิดจากการหักฉีกได้ สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยต่างๆ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วน
สาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง