กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--ก.ส.ล.
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า(สำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล.) ได้กล่าวโทษนายชานนทน์ ภู่เจริญยศ กรรมการและผู้มีอำนาจจัดการกิจการของบริษัท เจเอสพี. ฟิวเจอร์ส จำกัด (บริษัท) ในข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 151 แห่งพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 (พระราชบัญญัติ) ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บก. ปอศ.) โดยนายชานนทน์ ภู่เจริญยศ ได้กระทำหรือยินยอมให้บุคคลอื่นทำบัญชีไม่ถูกต้องหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงเพื่อลวงบุคคลอื่น เหตุเกิดระหว่างเดือนมกราคม 2551 ถึงเดือนกรกฎาคม 2552 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล. ตรวจพบจากการตรวจสอบการประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้าของบริษัท โดย บก. ปอศ. ได้รับหนังสือกล่าวโทษของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล. ไว้พิจารณาดำเนินคดีแล้ว
การที่นายชานนทน์ ภู่เจริญยศ อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษดำเนินคดีโดยสำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล. เพราะเหตุดังกล่าวข้างต้น ทำให้นายชานนทน์ ภู่เจริญยศ มีลักษณะต้องห้ามของบุคคลผู้มีอำนาจจัดการกิจการของผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ตามมาตรา 35 (8) แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบกับข้อ 4 (8) (ค) แห่งประกาศคณะกรรมการ ก.ส.ล. ที่ กธ 1/2553 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของ
ผู้ที่จะขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า และลักษณะต้องห้ามของบุคคลผู้มีอำนาจจัดการกิจการของผู้ที่จะขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้าและผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ลงวันที่ 4 มีนาคม 2553 ดังนั้น เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เลขาธิการ) จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 36 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติเพิกถอนความเห็นชอบนายชานนทน์ ภู่เจริญยศ ในการเป็นกรรมการและบุคคลผู้มีอำนาจจัดการกิจการของบริษัทตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2553 เป็นต้นไป และให้บริษัทเสนอชื่อบุคคลอื่นแทนเพื่อขอความเห็นชอบจากเลขาธิการภายใน 45 วันนับแต่วันที่เลขาธิการสั่งเพิกถอนความเห็นชอบ
ปัจจุบัน บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ประเภทผู้จัดการการซื้อขายล่วงหน้า และอยู่ระหว่างการถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ประเภทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ประกอบกับบริษัทได้ขอเลิกประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ประเภทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้าต่อเลขาธิการ โดยก่อนการเพิกถอนการให้ความเห็นชอบดังกล่าว บริษัทมีนายชานนทน์ ภู่เจริญยศ เป็นกรรมการบริษัทเพียงคนเดียวตามหนังสือรับรองบริษัท ทำให้ในช่วงเวลา 45 วันนับแต่วันที่เลขาธิการสั่งเพิกถอนความเห็นชอบ บริษัทยังไม่มีกรรมการที่ได้รับความเห็นชอบจากเลขาธิการ