กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--กสิกรไทย
กสิกรไทย ฉลองครบ 3 รอบ ธนาคารพาณิชย์รายแรกที่ออกบัตรเครดิตในประเทศไทย เปิดตัวบัตรเครดิตรูปลักษณ์และภาพลักษณ์ใหม่ เน้นทันสมัย เป็นบัตรที่ทำให้หัวใจเต้นแรง หวังเป็นบัตรเครดิตใบแรกที่ลูกค้าเลือกใช้ เตรียมทุ่มงบการตลาดปีนี้อีก 250 ล้านบาท ออกแคมเปญ 1 แถม 1 ทั้งเที่ยว-บิน-กิน-ช้อป ต่อเนื่องทั้งปี โดยจะมอบสิทธิพิเศษกระตุ้นหัวใจให้เต้นแรงทุก ๆ 3 เดือน พร้อมเป็นที่ 1 ครองใจลูกค้าทั้งจำนวนบัตรและยอดใช้จ่ายภายในปี 54
นายอำพล โพธิ์โลหะกุล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย นับเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่ให้บริการบัตรเครดิต ซึ่งตลอด 36 ปีที่ผ่านมามีการขยายฐานลูกค้า และพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีสู่ผู้ถือบัตร ส่งผลให้บัตรเครดิตกสิกรไทยเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืน และมีเป้าหมายในการขึ้นเป็นผู้นำในตลาดบัตรเครดิตภายในปี 2554
ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงได้ปรับรูปลักษณ์และภาพลักษณ์ของบัตรเครดิตกสิกรไทยใหม่ (Re-Brand) โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า จากที่เคยใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวกในการจับจ่ายมาเป็นการใช้บัตรเครดิตเพื่อเติมเต็มชีวิต เป็นบัตรที่มีชีวิตชีวา มอบความสุขจากสิทธิประโยชน์ให้ผู้ถือบัตรในทุกระดับ ตามแนวคิด “บัตรเครดิตที่ทำให้หัวใจเต้นแรง”
การปรับภาพลักษณ์บัตรเครดิตกสิกรไทยครั้งนี้ มาจากยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ของเครือธนาคารกสิกรไทย เพื่อให้บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทยเป็นบัตรเครดิตใบแรกที่ลูกค้าเลือกใช้ ในขณะเดียวกันก็สามารถขยายฐานเข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น โดยจากการศึกษาความต้องการของลูกค้า พบว่าผู้ถือบัตรเครดิตมักชื่นชอบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของบัตรเครดิตกสิกรไทยที่มีความหลากหลาย ดังนั้นธนาคารจึงจะจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด โดยให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายหลัก ๆ ผ่านบัตรเครดิต คือ เที่ยว-บิน-กิน-ช้อป โดยจะใช้งบประมาณการตลาดในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปี 2553 ถึง 250 ล้านบาท
เริ่มจากการมอบสิทธิประโยชน์แบบหัวใจเต้นแรง 1 แถม 1 อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สำหรับการใช้จ่ายทั้ง 4 ประเภท คือ เที่ยว 1 ฟรี 1, บิน 1 ฟรี 1, กิน 1 ฟรี 1, และ ช้อป 1 ฟรี 1 โดยลูกค้าใหม่ที่สมัครบัตรเครดิตกสิกรไทยตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ตุลาคม 2553 จะได้รับตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียในประเทศฟรี 1 ที่นั่ง และแถมฟรีอีก 1 ที่นั่ง เมื่อใช้จ่ายครบ 40,000 บาท ภายใน 2 รอบบัญชี หรือหากใช้จ่ายครบ 90,000 บาท ภายใน 2 รอบบัญชีจะได้ตั๋วเครื่องบินต่างประเทศ 1 ที่นั่ง แถมฟรีอีก 1 ที่นั่ง ส่วนลูกค้าปัจจุบัน จะได้รับสิทธิประโยชน์เที่ยว-บิน-กิน-ช้อป แบบ 1 แถม 1 เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย ได้แก่ เที่ยว-พัก 1 คืน ฟรี 1 คืนกับรีสอร์ทและบูติคโฮเทลสุดฮิป 30 แห่ง บิน—ด้วยสิทธิ บิน 1 ฟรี 1 จากการแลกคะแนนสะสมตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย 1 ที่นั่ง แถมอีก 1 ที่นั่ง ทั้งในและต่างประเทศ กิน-อิ่ม 1 ฟรี 1 ที่ร้าน Sukishi และส่วนลดพิเศษจากร้านอาหารชั้นนำที่ร่วมรายการ ช้อป-ซื้อ 1 แถม 1 พร้อมผ่อน 0% ที่ iStudio สยามพารากอน ดิเอ็มโพเรี่ยมและห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ และซื้อ 1 แถม 1 กับ LED TV ของซัมซุง พร้อมผ่อน 0% นาน 10 เดือน และหลังจากนี้ไป ธนาคารจะมีการออกข้อเสนอใหม่ ๆ ร่วมกับหลากหลายพันธมิตรทางธุรกิจ ให้ลูกค้าได้หัวใจเต้นแรงอีก อย่างต่อเนื่องทุก ๆ 3 เดือน
สำหรับแนวคิดในการออกแบบบัตรเครดิตรูปลักษณ์ใหม่ เพื่อต้องการให้ผู้ถือบัตรรู้สึกภูมิใจ มั่นใจ ตื่นเต้น เร้าใจ ด้วยสัญลักษณ์ที่ใช้สื่อถึงแสงไฟของความเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา หรือเป็นการแสดงพลุเพื่อการเฉลิมฉลอง รูปวงกลมหมายถึง ชีวิต พื้นผิววงกลมที่มีลวดลายต่าง ๆ สื่อถึงความละเอียดอ่อน พิถีพิถัน สีสันหมายถึงความสนุกสนาน และพื้นผิวมันวาวหมายถึง ความมีระดับ นอกจากนั้นจะมีการออกโฆษณาบัตรเครดิตชุดใหม่เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยเพิ่มขึ้น
นายอำพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การรุกตลาดบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย มีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาด ทั้งจำนวนบัตรและยอดการใช้จ่ายผ่านภายในปี 2554 ซึ่งที่ผ่านมาธนาคาร ค่อนข้างประสบความสำเร็จในการทำตลาดบัตรเครดิต โดยในปี 2552 แม้จะเป็นช่วงที่ตลาดบัตรเครดิตรวมชะลอตัว แต่ธนาคารยังสามารถขยายฐานบัตรได้ถึง 27.5%
ในปี 2553 ยังคงมียอดเติบโตต่อเนื่อง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 มียอดบัตรเครดิตอยู่ที่กว่า 1.4 ล้านบัตร มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ย 9,000 ล้านบาทต่อเดือน นับเป็นอันดับ 2 ในตลาด โดยคาดว่าในสิ้นปี 2553 จะมียอดบัตรเครดิตไม่น้อยกว่า 1.55 ล้านบัตร หรือมีส่วนแบ่งตลาดที่ 11.5% มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ย 9,400 ล้านบาทต่อเดือน หรือมีส่วนแบ่งตลาดที่ 17% ซึ่งถ้าเทียบกับปี 2552 ธนาคารมีบัตรเพิ่มขึ้น 16% และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 16% เช่นกัน