กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
บี.กริม กลุ่มธุรกิจชั้นนำด้านพลังงาน คมนาคม เครื่องปรับอากาศ สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และอสังหาริมทรัพย์ แถลงผลประกอบการปีที่ผ่านมาเติบโตตามคาดด้วยรายได้ 1.6 หมื่นล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าโตอีกประมาณ 7% มีรายได้ราว 1.7 หมื่นล้านบาท โดยรายได้กว่า 50% มาจากกลุ่มธุรกิจพลังงาน เผยตั้งเป้ารายได้ถึง 2.5 หมื่นล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมไม่ต่ำกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทภายในปี 2015
มร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน กลุ่มบริษัท บี.กริม เผยว่า “จวบจนถึงวันนี้ บี.กริม สามารถยืนหยัดอยู่คู่คนไทย และประเทศไทยมาถึง 132 ปี ตั้งแต่เริ่มต้นปี พ.ศ.2421 ด้วยการเป็นผู้บุกเบิกกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เริ่มตั้งแต่การจัดจำหน่ายยาและเคมีภัณฑ์ จนถึงวันนี้ได้พัฒนาและขยายกิจการสู่แขนงต่างๆ ทั้งนี้เพื่อนำมาซึ่ง การพัฒนาประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม เป็นหลักตามแนวคิดของ มร.เฮอร์เบิร์ต ลิงค์ ผู้บริหารรุ่นที่ 2 ในตระกูลลิงค์ ผู้นำพาบริษัทฯ ผ่านวิกฤตต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2475-2536 จึงทำให้บี.กริมแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจกลุ่มบริษัทบี.กริม เป็นในรูปแบบถือหุ้น 100%และแบบร่วมทุน โดยขณะนี้ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านพลังงาน ขณะนี้มีโรงไฟฟ้าใหม่จำนวน 4 แห่ง จากเดิมที่มีอยู่จำนวน 4 แห่ง ซึ่ง 3 แห่งอยู่ในประเทศไทย อีก 1 แห่งอยู่ในเวียดนาม แต่เนื่องจากเห็นว่าอุตสาหกรรมพลังงานยังเติบโตอย่างมั่นคง จึงมีแผนลงทุนอีก 20,000 ล้านบาทเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่อีก 4 แห่ง โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงิน วงเงิน 4,050 ล้านบาท สร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่แห่งแรกในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี และอีก 3 แห่งในอมตะซิตี้ และบางกะดี อินดัสเทรียล พาร์ค เป็นโรงไฟฟ้าขนาดเท่าๆ กัน ซึ่งคาดว่าแห่งสุดท้ายจะแล้วเสร็จในปี 2014 โดยมีเป้าหมายในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ เพื่อเป็นพลังงานทางเลือกใหม่ โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษา หาทำเลที่ตั้งอาจจะเป็นที่ จ.ฉะเชิงเทราหรือ จ.ราชบุรี โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 800 ล้านบาท
ด้านคมนาคม บี.กริมร่วมกับซีเมนส์ เป็นผู้จัดหารถและติดตั้งระบบการเดินรถไฟฟ้า รวมถึงการดูแลระบบรถไฟฟ้าตลอดจนการบำรุงรักษาให้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงเทพมหานคร และแอร์พอร์ตลิงค์เชื่อมต่อกับสนามบินสุวรรณภูมิที่ได้เปิดให้บริการแล้ว
ด้านธุรกิจเครื่องปรับอากาศ มีแผนที่จะร่วมทุนกับบริษัทในสวีเดนเกี่ยวกับการผลิตอะไหล่ต่างๆ ส่วนตลาดเครื่องปรับอากาศในเมืองไทย คาดว่าปีนี้โตได้อีก 20% สำหรับเครื่องรุ่นเล็ก นอกจากนี้ยังมีแผนขยายด้านอสังหาริมทรัพย์ จัดสร้างหมู่บ้านแบบยุโรปสมัยก่อน ให้มีชีวิตชีวา ในเนื้อที่กว่า 1,500 ไร่ที่ชลบุรี ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 1 ชม. ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างลงทุนเรื่องระบบน้ำและสาธารณูปโภค”
“บี.กริม เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี สามารถนำมาซึ่งความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยสร้างสรรค์สังคมไทยให้ดีขึ้น” มร.ลิงค์ กล่าวย้ำ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ โทร 02-434-8300, 02-434-8547 สุจินดา, แสงนภา, ปนัดดา