เซ็นทรัลเวิลด์ ทุ่ม 2,800 ล้านบาทปรับปรุงใหม่ พร้อมเปิดให้บริการ ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้

ข่าวทั่วไป Friday August 6, 2010 17:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--บางกอกพับบลิค รีเลชั่นส์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจรีเทลไทยด้วย ‘นวัตกรรมการออกแบบศูนย์การค้า’ เทียบเท่าศูนย์การค้าชั้นนำของโลก ทั้งความทันสมัย สวยงาม ปลอดภัย และรักษาสิ่งแวดล้อม เปิดให้ร้านค้ากว่า 350 ร้านค้าเข้าตกแต่งร้านแล้ว วันนี้ นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ประกาศทุ่ม 2,800 ล้านบาทดำเนินงานปรับปรุงทั้งในส่วนโครงสร้าง และออกแบบตกแต่งเซ็นทรัลเวิลด์และห้างสรรพสินค้าเซนใหม่ พร้อมยืนยันเปิดให้บริการเซ็นทรัลเวิลด์ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวว่า “การดำเนินการปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 นั้น เซ็นทรัลเวิลด์และห้างสรรพสินค้าเซนวางแผนทุ่มงบกว่า 2,800 ล้านบาท เพื่อออกแบบตกแต่งปรับปรุงพื้นที่ด้วย ‘นวัตกรรมการออกแบบศูนย์การค้า’ โดยเน้นความทันสมัย สวยงาม ปลอดภัย รักษาสิ่งแวดล้อม การกลับมาในครั้งนี้จะดีขึ้นกว่าเดิม และพร้อมเปิดให้บริการภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้” “ขณะนี้เราได้รับการอนุมัติแบบปรับปรุงจากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และร้านค้าส่วนใหญ่จำนวนทั้งสิ้นกว่า 350 ร้านค้า สามารถเข้าดำเนินการเข้าตกแต่งพื้นที่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 และจะแล้วเสร็จทันกำหนดการเปิดในเดือนกันยายนนี้” นายกอบชัย กล่าว นายกอบชัย กล่าวต่อไปว่า “กำหนดการเปิดให้บริการ แบ่งออกเป็น 3 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 พื้นที่ส่วนใหญ่ 80% ของเซ็นทรัลเวิลด์ ได้แก่ โซน Beacon, Central Court, Eden, Dazzle, Forum จะเปิดในบริการในเดือนกันยายน 2553 อย่างแน่นอน เฟสที่ 2 พื้นที่ทั้งหมดของเซ็นทรัลเวิลด์ ยกเว้นห้างสรรพสินค้าเซน และร้านบางส่วนที่ติดกับเซน จะทยอยเปิดให้บริการระหว่างเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2553 และจัดงานเปิดในเดือนพฤศจิกายน 2553 และเฟสที่ 3 จะเปิดบริการห้างสรรพสินค้าเซน และร้านส่วนหนึ่งที่ติดกับเซน ภายในเดือนสิงหาคม 2554” การเปิดให้บริการของเซ็นทรัลเวิลด์ และเซนจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส ได้แก่ เฟส 1: - ภายในเดือนกันยายน 2553 พื้นที่ 80% ของเซ็นทรัลเวิลด์ ได้แก่โซน Beacon, Central Court, Dazzle, Eden, Forum อาทิ ร้าน Topshop Topman, GAP, Miss Selfridge, XXI Forever, B2S เฟส 2: - ทยอยเปิดภายในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2553 พื้นที่ทั้งหมดของเซ็นทรัลเวิลด์ ยกเว้นห้างสรรพสินค้าเซน และร้านบางส่วนที่ติดกับเซน อาทิ ร้าน Coach, Billabong, Kloset (Thai design), Din Tai Fung, Anastasia และ ร้านอาหารบริเวณ ชั้น 6-7 เฟส 3: - ภายในเดือนสิงหาคม 2554 พื้นที่ทั้งหมดของเซน และร้านที่ติดกับเซน นายกอบชัย กล่าวเสริมว่า “เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจรีเทลของประเทศ แนวคิดในการออกแบบตกแต่งใหม่ของเซ็นทรัลเวิลด์ จะเน้น ‘นวัตกรรมการออกแบบ’ ที่เทียบเท่ากับศูนย์การค้าชั้นนำของโลก โดยจะมีความแปลกใหม่และพิเศษสุดกว่าเดิม ด้วยการผสมผสานแนวคิดบรรยากาศความชุ่มชื่นพริ้วไหวตามธรรมชาติแบบฤดูใบไม้ผลิ (Spring Season) เข้ากับลักษณะเฉพาะตัวของเซ็นทรัลเวิลด์ที่มีอยู่เดิมในแง่ของความมีศิลปะ ความเรียบง่าย มินนิมอล และทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว อาทิ จะมีบรรยากาศเสมือนจริงของสายน้ำและต้นไม้ที่พริ้วไหวกลางแจ้งภายในศูนย์การค้า” นายกอบชัย กล่าวว่า นอกจากความสวยงามทันสมัยของศูนย์การค้าแล้ว เรายังได้คำนึงถึงในเรื่องของความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ โดยได้ลงทุนในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นระบบใหม่และทันสมัยที่สุด โดยการติดตั้งกล้อง CCTV อย่างทั่วถึง การควบคุมประตูและทางเข้าศูนย์ผ่านจุดศูนย์กลาง และมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่รัดกุมสามารถตรวจจับกลุ่มควันได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของ ‘แผนเซ็นทรัลเวิลด์ 4 ข้อ’ - ดึงนักช้อปมา หาพื้นที่ขาย คลายปัญหาเงิน ผ่อนปรนสัญญา ที่ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไปแล้วนั้น ทางเซ็นทรัลเวิลด์ได้ดำเนินการแล้วดังนี้ ดึงนักช้อปมา ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดงาน Smile@Ratchaprason, และ CentralWorld Unity Shopping หาพื้นที่ขาย โดยเปิดพื้นที่ในเซ็นทรัลลาดพร้าวขนาดกว่า 3,000 ตร.ม. ให้แก่ร้านค้ากว่า 200 ร้าน รวมทั้งจัดสรรพื้นที่ในรูปแบบของ Pop-Up Store และพื้นที่ขายทั่วไปอีกด้วย ตลอดระยะเวลาที่ศูนย์การค้าอยู่ระหว่างการปรับปรุง คลายปัญหาเงินด้วยการงดเก็บค่าเช่าตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 จนถึงวันที่จะเปิดให้เข้าไปใช้พื้นที่ได้อีกครั้ง ผ่อนปรนสัญญา โดยมีการเจรจาผ่อนปรนสัญญาให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบกว่า 600 ราย ด้วยการขยายระยะเวลาในสัญญาเช่าให้ในอัตราค่าเช่าเดิม ตามจำนวนเวลาจนกว่าผู้ค้าจะสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวได้ นายกอบชัย กล่าวว่า “มีผู้ค้าที่เช่าใช้พื้นที่กว่า 600 ราย และพนักงานที่ทำงานในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์กว่า 15,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” เซ็นทรัลเวิลด์เป็นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็น The Largest Lifestyle Destination in Bangkok มีพื้นที่ค้าปลีกทั้งสิ้น 550,000 ตร.ม. ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า เซน อิเซตัน ซูปเปอร์สปอร์ต โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซิเนมา พาวเวอร์บาย บีทูเอส และร้านค้าต่างๆ อีกกว่า 500 ร้านค้า และร้านอาหารกว่า 100 ร้าน เซ็นเตอร์พอยท์ และลานเซ็นทรัลเวิลด์สแควร์ขนาด 8,000 ตร.ม. เมื่อเร็วๆ นี้ เซ็นทรัลเวิลด์ได้รับรางวัลสูงสุดอันดับหนึ่ง Best of the Best ในสาขาการออกแบบและพัฒนาจากสมาคมศูนย์การค้าโลก หรือ ICSC ซึ่งมีสมาชิกอยู่มากกว่า 60,000 รายใน 90 กว่าประเทศทั่วโลก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท บางกอกพับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด โทร. 0-2664-9500 ต่อ 116 คุณศกร ทวีสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ คุณปานตา พูนทรัพย์มณี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ