กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--กก.
ร้อยโท สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก) เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ณ ห้องประชุมปกาศัย ศาลากลางจังหวัดกระบี่ และเดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามโครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ณ บ้านเขากลม หมู่ 7 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2550
ร้อยโท สุวิทย์ ยอดมณี รมว.กก. เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมติดตามโครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ประจำปี 2550 ซึ่งรัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 5,000 ล้านบาทให้ทั่วประเทศ ในปีนี้ จังหวัดกระบี่ได้รับงบประมาณจำนวน 70 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2550 นี้ และในการไปตรวจราชการภายใต้แผนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของรมว.กก. จังหวัดกระบี่ ปรากฏผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ฯ เป็นที่น่าพอใจ โดย รมว.กก. ได้กล่าวว่า อยากให้ จ.กระบี่ มีการท่องเที่ยวได้ไม่จำกัดฤดูตลอดทั้งปี(GREEN SEASON) ซึ่งจังหวัดกระบี่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวตากอากาศในลักษณะดังกล่าวได้ รวมทั้งจังหวัดกระบี่มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทะเล น้ำพุร้อน และอื่นๆ ของจังหวัดในเขตอันดามัน ตลอดจนมีวิถีชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความสงบน่าอยู่ เป็นจุดเด่นเหนือจังหวัดอื่นๆ ในเขตอันดามัน
นอกจากนี้ รมว.กก. ต้องการให้ดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาท่องเที่ยวและสัมผัสบรรยากาศที่เป็นจริง ซึ่งเชื่อว่า นักท่องเที่ยวคุณภาพเหล่านั้นจะย้อนกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม รมว.กก. ก็ได้กล่าวความพึงพอใจในความร่วมมือของหน่วยงานราชการและเอกชนในพื้นที่เป็นอย่างสูง ที่ได้ร่วมกันเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ แม้บางปัญหาจะยังไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น ปัญหาขยะ ก็ได้มีแผนการดำเนินการในอนาคตนี้แล้ว
ร้อยโท สุวิทย์ ยอดมณี ยังได้กล่าวถึงลักษณะของนักท่องเที่ยวคุณภาพว่า ควรมีลักษณะดังนี้ 1.มีกำลังซื้อพอสมควร 2. สามารถสื่อสารกันได้ 3.เข้าใจลักษณะและธรรมชาติของคนไทย 4.ไม่ยอมเอารัดเอาเปรียบคนไทยและประเทศชาติ 5.ไม่สร้างขยะเพิ่มให้แก่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และ 6. ไม่จำเป็นจะต้องมีปริมาณและจำนวนของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้ามาท่องเที่ยว(niche markets) ทั้งนี้ การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ก็คือ การท่องเที่ยวแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำรินั่นเอง(Sufficiency Tourism) โดยไม่ตามใจนักท่องเที่ยว แต่เน้นระเบียบวินัยและมาตรฐานในการท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ไม่พอใจอยู่บ้างในช่วงแรก แต่หากช่วยกันรณรงค์ก็จะประสบความสำเร็จในที่สุด นอกจากนี้ การท่องเที่ยวตามวิถีไทย ต้านภัยโลกร้อน ก็จะเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับนโยบายในขั้นต้น มิเช่นนั้น อาจเกิดปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ(Zero Tour) ขึ้นมาอีกมาก
รมว.กก. ได้ฝากถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่และฝั่งอันดามันว่า จากเหตุการณ์สึนามิที่ผ่านมา ตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดกระบี่ลดลงเพียงแค่ 10 % สำหรับในรอบ 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ของปี 2550 นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในจังหวัดกระบี่จำนวนกว่า 600,127 คน และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งจังหวัดกระบี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝั่งอันดามันที่ควรจะทำแผนการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันร่วมกับจังหวัดพังงา และภูเก็ต เพื่อเชื่อมโยงระบบ การท่องเที่ยวและกีฬาในฝั่งอันดามันอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดกีฬา ที่สามารถดำเนินการควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวได้ เช่น การวิ่ง หรือปั่นจักรยานเลียบฝั่งทะเล อันดามัน 3 จังหวัด และที่สำคัญ จังหวัดกระบี่สามารถสร้างนักท่องเที่ยวคุณภาพ การท่องเที่ยววิถีไทย และเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวในประเทศด้านสุขภาพและคุณภาพที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดกระบี่ตลอดทั้งปี โดยรักษาคุณภาพของสิ่งแวดล้อม สถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนราคาและคุณภาพในด้านต่างๆ ได้ง่ายและดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนงานการกีฬา และ การท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน จะได้ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการเสนอแผนงานร่วมกับ 3 จังหวัด (กระบี่ พังงา ภูเก็ต) ภายใน 30 วัน เพื่อจะเป็นแผนงานเชิงปฏิบัติต่อไป