รมว.พม.มอบเงิน ๙.๖ ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ความไม่สงบค่าจัดการศพผู้สูงอายุ เงินกู้ยืมประกอบอาชีพผู้สูงอายุ และโครงการบ้านมั่นคง จ.ขอนแก่น

ข่าวทั่วไป Monday August 9, 2010 14:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--พม. วันนี้ (๙ ส.ค. ๕๓) เวลา ๑๐.๐๐ น. นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ตั้งแต่วันที่๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ ทั้งหมด ๗ ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต ๑ ราย และผู้บาดเจ็บ ๖ ราย รวมเป็นเงิน ๗๖๐,๐๐๐ บาท นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เสียชีวิตและผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยยึดหลักเกณฑ์และวิธีการเดียวกับการช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ และเมื่อวันที่ ๘-๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๓ และ พม.ได้มอบเงินเยียวยา รวมทั้งออกเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับการมอบเงินเยียวยาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นในวันนี้ มีผู้ได้รับความเดือดร้อน จำนวน ๗ ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต ๑ ราย และผู้บาดเจ็บ ๖ ราย รวมเป็นเงิน ๗๖๐,๐๐๐ บาท แบ่งจ่ายตามระยะเวลาที่เข้าพักรักษาตัว ที่ระบุในหลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ และในโอกาสนี้ ได้มอบเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี อีกจำนวน ๑๒๖ ราย เป็นเงิน ๒๕๒,๐๐๐ บาท เงินกู้ยืมทุนประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงอายุ จำนวน ๑๐ ราย เป็นเงิน ๒๗๕,๕๐๐ บาทและโครงการบ้านมั่นคงเป็นเงิน ๘๓๒,๕๐๐๐ บาท นายอิสสระ กล่าวต่อว่า ภารกิจเร่งด่วนที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เร่งดำเนินการในขณะนี้ ได้แก่ การเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ การจัดสรรเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป ที่แสดงความจำนงโดยขอขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับการสงเคราะห์ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และมีนโยบายให้ศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคมเป็นกลไกในการปฏิบัติงานเชิงรุกโดยเชื่อมโยงศูนย์ประชาบดี ๑๓๐๐ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งพร้อมให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้มีปัญหาตกทุกข์ได้ยาก หรือตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ สามารถแจ้งเบาะแสและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ประชาบดี ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ “รัฐบาลได้เร่งรัดการดำเนินงานด้านสวัสดิการสังคมในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุทุกคนที่ลงทะเบียน จำนวน ๓.๕ ล้านคน การจ่ายค่าจัดการศพให้แก่ผู้สูงอายุ และยังมีแผนที่จะจ่ายเบี้ยความพิการให้แก่คนพิการทุกคนที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ” นายอิสสระ กล่าว.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ