กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--สวพ.FM91
นายชัยรัตน์ สงวนซื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยในรายการสถานีวิทยุ สวพ.FM91 ว่า กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาเครื่องหมายการเสียภาษีรถยนต์ (ป้ายวงกลม) รูปแบบใหม่ หรือ Radio Frequency Identification (RFID) เป็นทางเลือกใหม่ให้แก่เจ้าของรถยนต์ รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจประกันภัยรถยนต์ สามารถตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของรถ อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกไม่ได้บังคับเจ้าของรถ แต่เปิดให้ทำโดยสมัครใจ ซึ่งผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ เมื่อชำระภาษีรถยนต์ประจำปี เสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 120 บาท จะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีรถยนต์เหมือนของเดิม แต่สีจะต่างกัน ซึ่งภายในจะบรรจุ RFID Chip เป็นข้อมูลเกี่ยวกับรถทั้งหมด สำหรับติดกระจกหน้ารถ อีกส่วนจะเป็นสติ๊กเกอร์ หรือ SMART PASS ซึ่งมี RFID บรรจุไว้เช่นกัน สำหรับติดบริเวณโคมไฟหน้ารถ การทำงานของระบบ RFID จะมี Transceiver ซึ่งเป็นเครื่องอ่านที่เชื่อมต่อด้วยระบบคลื่นวิทยุ มีทั้งการรับและส่งสัญญาณวิทยุ สำหรับตรวจสอบและติดตามรถยนต์ที่ใช้ระบบ RFID ระยะความเร็วรถไม่เกิน 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจะมีการติดตั้งเครื่องอ่านสัญญาณตามจุดต่างๆ บนถนนสายหลัก เบื้องต้นกำหนดอย่างน้อย 450 จุดทั่วประเทศ กรณีพบรถที่มีปัญหา เช่น รถที่ถูกโจรกรรม หรือรถที่สวมทะเบียนวิ่งผ่าน จะมีระบบแจ้งเตือนให้ทราบทันที เพื่อความสะดวกต่อการตรวจสอบและติดตามรถสะดวกรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ จะเริ่มให้บริการที่กรมการขนส่งทางบก จตุจักร วันที่ 11 ส.ค. 53 เป็นต้นไป และจะขยายให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ภายในเดือนกันยายน 2553 ส่วนการชำระภาษีรถยนต์แบบเดิมยังให้บริการตามปกติ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ขนส่งได้เชิญชวนเอกชนมาลงทุนเนื่องจากใช้งบประมาณสูง มีเอกชนยื่นข้อเสนอ 3 ราย ปรากฏว่าบริษัท กลกร จำกัด เป็นผู้ที่เสนอเงื่อนไขดีที่สุด ระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี นายชัยรัตน์ กล่าวด้วยว่า คาดว่าช่วงแรกจะมีผู้ใช้ยานพาหนะมาใช้ประมาณ 15-20% ส่วนรถใหม่เชื่อว่าจะเข้ามาใช้บริการ 100% เพราะการซื้อรถ 90% เป็นระบบเงินผ่อน หากมาใช้ระบบดังกล่าวเมื่อรถหายสามารถติดตามได้ง่าย (ที่มา กรมการขนส่งทางบก)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-562-0033 ck