กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--IR PLUS
บมจ.อินเตอร์ไฮด์ โชว์ศักยภาพอวดผลงาน Q2/53 กำไร 59.9 ลบ. เพิ่มขึ้น 234.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 17.9 ล้านบาท หลังภาวะเศรษฐกิจฟื้น อุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัว หนุนผลงานครึ่งปีสุดแจ่มกำไร 173.51 ลบ. เพิ่มขึ้น 5,477% จากปีก่อนที่ขาดทุน 3.22 ลบ. หนุนบอร์ดสุดห้ามใจอนุมัติปันผลระหว่างกาลทันที 0.25 บ./หุ้น 'องอาจ ดำรงสกุลวงษ์'ผู้บริหาร มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ หลังรับออเดอร์เต็มแล้วทั้งปี แถมขยายกำลังผลิตรองรับงานใหม่
นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2553 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 59.9 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 17.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 234.63% สาเหตุที่กำไรไตรมาส 2/2553 ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 433.01 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ปี 2552 จำนวน 234.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 198.86 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85 ซึ่งการเพิ่มขึ้นเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการปรับตัวดีขึ้นในปี 2553
นอกจากนี้บริษัทยังมีต้นทุนการขายอยู่ที่ 324.59 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76 ของยอดรายได้จากการขาย อัตราร้อยละของต้นทุนลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี2552 ซึ่งบริษัทมีต้นทุนขาย 192.10 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82 ของยอดรายได้จากการขาย ซึ่งอัตราร้อยละของต้นทุนที่ลดลงมีสาเหตุมาจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงประกอบกับผลผลิตที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลให้บริษัทมีการประหยัดจากขนาดการผลิต ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาส 2/2553 มีจํานวน 24.41 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2552 ซึ่งบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจํานวน14.86 ล้านบาท โดยการเพิ่มเป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการประจำงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 173.51ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5,477 จากปีก่อนที่ขาดทุน 3.22 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2553 คณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2553 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 23 สิงหาคม 2553 และให้รวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2553
“การจ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งนี้ก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ถือหุ้น หลังจากที่บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่น ตามอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งเรามั่นใจว่าในปี 2553 นี้จะเป็นอีกหนึ่งปีทองของบริษัทฯ เพราะในครึ่งปีหลังยังเห็นทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างชัดเจนซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ อินเตอร์ไฮด์ เติบโตในทิศทางเดียวกันด้วย”
เขากล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจในครี่งปีหลังเชื่อว่าจะยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก โดยปัจจัยหลักมาจากได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อ (order) ใหม่ๆ เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อ จากลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการค่ายรถยนต์เข้ามารอการส่งมอบจนถึงสิ้นปีแล้ว จากการใช้กำลังการผลิต 2.5 ล้านตารางฟุต/เดือน ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าสามารถผลักดันให้รายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1,800-1,900 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ส่วนในปีหหน้า หลังจากที่ขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 50% เป็น 3-4 ล้านตารางฟุต/เดือน จะทำให้สามารถรับคำสั่งซื้อได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังเพิ่มความคล่องตัวในการรับงานที่มีขนาดใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่เตรียมขยายงานไปต่างประเทศมากขึ้นด้วย
ข้อมูลบริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์ โดยใช้หนังโคหรือกระบือในการผลิตหนังผืนสำเร็จรูปโดยผ่านกรรมวิธีฟอกย้อมและนำมาตัดและ/หรือเย็บเป็นผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสถานะเป็นผู้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์โดยอ้อม (Second Tier Original Equipment Manufacturer หรือ 2nd Tier OEM) ของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ อาทิ โตโยต้า ฮอนด้านิสสัน ฟอร์ด มิตซูบิชิ อีซูซุ มาสด้า เป็นต้น โดย บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตหนังสำหรับเบาะที่นั่งรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ที่ใช้หนัง ได้แก่ พวงมาลัย กระปุกเกียร์ เป็นต้น เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์โดยตรง (First Tier Original Equipment Manufacturerหรือ 1st Tier OEM) ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ดังกล่าวผลิตจำหน่ายให้ลูกค้าทั้งภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งการผลิตส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (OEM) และบางส่วนผลิตขายให้ลูกค้าทั่วไป (After Market)
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี(ฟ้า)
Tel. 02-554-9395 // E-mail : jurarat@irplus.in.th