กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--IR network
นักลงทุนยิ้มรับกำไรกันถ้วนหน้า หลัง IFS เข้าเทรดวันแรกได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เปิดตลาดฮือฮายืนเหนือราคาจองได้ถึง 45% และปิดจองที่ 1.76บาท ยืนเหนือราคาไอพีโอ 0.41บาท เพิ่มขึ้น 30% สวนกระแสของตลาดรวมที่ SET INDEX ยืนในแดนลบ “ตัน เล เยน” ระบุเป็นผลมาจากพื้นฐานที่ดีของธุรกิจ และมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากในอนาคต ขอให้ผู้ถือหุ้นวางใจพร้อมทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้เกิดแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมประเ มินแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ยังขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IFS ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (10 สิงหาคม 2553) เป็นวันแรก เปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 1.96 บาท สูงกว่าราคาจอง 0.61 บาท หรือเพิ่มขึ้น 45% (ราคาจอง 1.35 บาทต่อหุ้น) และปิดตลาดที่ระดับ 1.76 บาท สูงกว่าราคาจอง 0.41 บาท หรือเพิ่มขึ้น30% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 396.22 ล้านบาท
นายตัน เล เยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IFS เปิดเผยถึงหุ้น IFS ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกในวันนี้ว่าได้รับการตอบรับที่อบอุ่นจากนักลงทุนอย่างมาก นับตั้งแต่เปิดตลาดที่ราคาพุ่งขึ้นไปยืนเหนือราคาจองถึง 45% ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ซึ่ง IFS คือบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และธุรกิจมีโอกาสขยายได้อีกมาก ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวอย่างเด่นชัด
“ทั้งๆ ที่วันนี้สภาพโดยรวมของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะยืนอยู่ในแดนลบ และ SET INDEX ปรับตัวลดลงถึง 13.23 จุด แต่หุ้น IFS กลับสามารถสวนกระแสยืนเหนือราคาจองและให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจกับนักลงทุนได้ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นของเรา ซึ่งผมของให้คำสัญญาว่าคณะผู้บริหารและทีมงานของ IFS พร้อมที่จะทุ่มเทและทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่บริษัท พร้อมผลักดันให้ธุรกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง”
เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกบการในปี 2553 ว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดย IFS มีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 162 ล้านบาท ไปใช้ในการขยายธุรกิจและบริการให้มากขึ้นเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร และในอนาคตมีแผนจะเปิดสาขาในต่างจังหวัดเพื่อครอบคลุมพื้นที่การให้บริการสินเชื่อและเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ขณะเดียวกันจากการระดมทุนในครั้งนี้ทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และทำให้ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้าง ดังนั้นจะทำให้การขยายธุรกิจสามารถดำเนินการได้ราบรื่นซึ่งถือเป็นผลบวกต่อการดำเนินงานเป็นอย่างยิ่ง