กทม.จับมือ กกท. เตรียมผุดสนามฟุตซอลระดับมาตรฐาน 10 แห่ง ใต้ทางด่วน

ข่าวกีฬา Friday March 11, 2005 11:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--กทม.
ผู้ว่าฯอภิรักษ์เอาใจเยาวชนและคนรักกีฬา เตรียมพัฒนาลานกีฬาใต้ทางด่วนเป็นสนามฟุตซอลระดับมาตรฐานนำร่อง 10 แห่งแรก พร้อมปรับปรุงอีก 1,200 ลาน ให้น่าใช้ ขณะขอใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนจากการทางพิเศษฯ เพื่อเพิ่มสวนหย่อมและลานกีฬาให้คนกรุง อีกทั้งจับมือการกีฬาแห่งประเทศไทยสร้างสวนสาธารณะบริเวณรอบสนามกีฬา
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกทม. เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมีนายสันติภาพ เตชะวณิช ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยและคณะผู้บริหาร กกท.ให้การต้อนรับ ณ อาคารรัชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 48
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในการเข้าพบผู้ว่าการ กกท. ในครั้งนี้ ได้หารือเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอลบริเวณใต้ทางด่วน เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชน มีสนามฝึกซ้อมและจัดการแข่งขันฟุตซอลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งทางสมาคมฟุตซอลแห่งประเทศไทยได้นำเสนอรูปแบบของสนามฟุตซอลโดยเสนอให้ปรับปรุงพื้นที่ใต้ทางด่วนเป็นสนามฟุตซอลแห่งละ 3 สนาม มีการปูพื้นยาง ติดไฟฟ้าแสงสว่าง รั้วตาข่ายเหล็ก ระบบประปา พร้อมห้องน้ำ และห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา ซึ่งแต่ละสนามสามารถมีอัฒจันทร์ให้นั่งชมด้วย ใช้งบก่อสร้างประมาณแห่งละ 1.9 ล้านบาท ทั้งนี้กทม. จะสำรวจลานกีฬาใต้ทางด่วนที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อปรับปรุงให้เป็นสนามฟุตซอลต้นแบบ จำนวน 10 แห่ง ในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้ พร้อมทั้งขอให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยพิจารณาอนุญาตให้ใช้พื้นที่ว่างใต้ทางด่วนเพื่อให้กทม. เข้าทำประโยชน์เป็นสวนหย่อมและลานกีฬาเพิ่มเติมสำหรับประชาชนด้วย
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกทม. มีลานกีฬาจำนวน 1,200 แห่ง ให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งเกือบทุกแห่งประชาชนนิยมเล่นกีฬาฟุตซอลเพราะสามารถเล่นได้โดยไม่ต้องใช้พื้นที่มาก อีกทั้งกทม. ยังได้ส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและเล่นกีฬามากขึ้น โดยได้จัดการแข่งขันฟุตซอลทั้งในระดับเขต กลุ่มเขต และระดับกรุงเทพมหานครเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดจัดการแข่งขันกีฬาฟุตซอลเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี จัดขึ้นในเดือนเมษายน มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 6,000 ทีม ทั้งนี้ เห็นว่าหากกทม. มีสนามฟุตซอลที่ได้มาตรฐานเป็นที่ฝึกซ้อมและจัดการแข่งขัน ก็จะช่วยพัฒนากีฬาฟุตซอลของคนกรุงเทพฯไปสู่ความเลิศได้ และดึงดูดเด็กและเยาวชนเกิดความสนใจและอยากเล่นกีฬามากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะสำรวจและปรับปรุงลานกีฬาที่ชำรุดทรุดโทรม อุปกรณ์กีฬา และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มเติม
นอกจากนี้ กทม.และ กกท. จะร่วมกันดำเนิน “โครงการสนามกีฬาในสวน” (Stadium in the Park) โดยจะปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสนามหญ้าโดยรอบสนามกีฬาและลานกีฬาในการกีฬาแห่งประเทศไทย และปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น สวยงาม ให้กลายเป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ที่ประชาชนสามารถเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจได้ ทั้งนี้ปัจจุบันมีประชาชนมาออกกำลังกายและเล่นกีฬาที่การกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ประมาณวันละ 15,000 คน หากมีสวนสาธารณะในบริเวณดังกล่าวด้วยก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประชาชน นายอภิรักษ์กล่าวในตอนท้าย--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ