กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายหลัก เพื่อส่งเสริมการขายและสนับสนุนการตลาดเต็มที่ทุกช่องทาง พร้อมเตรียมเปิดตัวมือถือใหม่กว่า 50 รุ่น ภายในสิ้นปีนี้
ซัมซุงประกาศแผนธุรกิจโทรศัพท์มือถือปี พ.ศ.2550 เตรียมส่งโทรศัพท์มือถือใหม่กว่า 50 รุ่น พร้อมอัดงบการตลาดกว่า 600 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือไทยให้เป็น 20% หรือ 2 เท่าจากปัจจุบัน โดย ซัมซุงได้แต่งตั้ง แซม คอร์ปอเรชั่น ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักรายเดียวในประเทศไทย ทำหน้าที่บริหารการจัดจำหน่ายให้แก่ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือของซัมซุงทั่วประเทศ ทั้งผู้จำหน่ายค้าส่งและค้าปลีก ทั้งนี้ เพื่อรักษามาตรฐานด้านราคาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่พันธมิตรทางการค้าทุกกลุ่ม
มร. ชุง จุน คิม ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2550 นี้ ซัมซุงเตรียมส่งโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่กว่า 50 รุ่น ออกจำหน่ายในตลาดประเทศไทย ซึ่งจะสามารถตอบสนองในทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยเราตั้งเป้าว่า จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 20% ของตลาดรวมทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ และได้เพิ่มงบประมาณทางการตลาดเป็นกว่า 600 ล้านบาท จากเดิม 300 ล้านบาทที่ได้ตั้งไว้ เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดกระตุ้นความสนใจทั้งกับผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ซัมซุงได้แต่งตั้ง แซม คอร์ปอเรชั่น ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายหลักรายเดียวในประเทศไทย เพื่อจะเป็นตัวกลางในการดำเนินการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือซัมซุงทั้งหมด แซมจะให้การสนับสนุนแก่ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือซัมซุงทั่วประเทศ โดยซัมซุงจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนทั้งในเรื่องของการส่งเสริมการขาย กิจกรรมการตลาด และโปรโมชั่นแคมเปญต่างๆ อย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคในแบรนด์โทรศัพท์มือถือซัมซุงให้มีมากยิ่งขึ้น”
“ซัมซุงจะให้การสนับสนุนกับแซม คอร์ปอเรชั่น ในทุกๆ ด้าน เพื่อให้มั่นใจว่า ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือซัมซุงทุกรายได้รับในสิ่งที่ต้องการ และบรรลุเป้าหมายส่วนแบ่งตลาด 20% ตามที่ได้ตั้งไว้ งบประมาณทางการตลาดที่เตรียมไว้จะครอบคลุมทั้งในส่วนของกิจกรรม Above-the-Line และ Below-the-Line อาทิ โฆษณาโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ และกิจกรรมโรดโชว์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ซึ่งกำลังออกสู่สายตาผู้บริโภคในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ เราได้จัดเตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อทำการเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์ของโทรศัพท์มือถือซัมซุง ผ่านทางการจัดและตกแต่งร้านโดยเฉพาะ” มร. คิม กล่าวเสริม
ซัมซุงจะดำเนินงานควบคู่ไปกับแซมเพื่อให้มั่นใจว่า ตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าทุกรายในทุกช่องทางได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากซัมซุง การมีแซมเข้ามาร่วมดำเนินการนี้ช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือของซัมซุง ทั้งทางด้านราคา คุณภาพ และการรับประกัน ที่วางใจได้
ในด้านของตลาดโทรศัพท์มือถือที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงขณะนี้ มร. คิม ยอมรับว่าอาจมีบางร้านที่ขายโทรศัพท์ซัมซุงในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดเนื่องจากเป็นการนำเครื่องเข้ามาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ดี โทรศัพท์ประเภทนี้จะไม่มีฟังก์ชั่นการใช้งานหรือสนับสนุนทางภาษาบางประเภท อาทิ ปุ่มกดที่ไม่มีภาษาไทย หรือ ไม่มีใบรับประกันจากซัมซุง โดยผู้บริโภคสามารถสังเกตได้ เนื่องจากโทรศัพท์ที่จัดจำหน่ายจาก แซม คอร์ปอเรชั่น จะมีใบรับประกันมาพร้อมกันด้วย นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสามารถตรวจสอบราคามาตรฐานของโทรศัพท์มือถือซัมซุงได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของซัมซุงทางหมายเลข 0-2689-3232
“ซัมซุงยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค เราจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ทุกๆ ช่องทางจัดจำหน่ายเพื่อขึ้นครองส่วนแบ่งการตลาดให้ได้ถึง 20% ภายในปีนี้อย่างที่ตั้งเป้าไว้ทั้งยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีและล้ำหน้าที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการแก่ผู้บริโภคคนไทย เราแนะนำให้ผู้บริโภคตรวจสอบรายละเอียดของสินค้า อาทิ ตัวเครื่อง ราคา หรือการรับประกัน เพื่อมั่นใจว่า โทรศัพท์ที่ท่านซื้อมีคุณภาพสูงและได้รับการรับรองคุณภาพโดยตรงจากซัมซุง” มร. คิม กล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับซัมซุง อิเลคโทรนิคส์
บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด คือ ผู้นำระดับโลกด้านเซมิคอนดักเตอร์ โทรคมนาคม สื่อดิจิตอล และเทคโนโลยีการควบรวมดิจิตอล ในปี พ.ศ. 2549 บริษัทมียอดขาย 63.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีรายได้สุทธิ 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทมีพนักงานประมาณ 138,000 คน ประจำอยู่ที่สำนักงานกว่า 124 แห่ง
ใน 56 ประเทศ และประกอบด้วยหน่วยธุรกิจหลัก 5 หน่วย คือ ธุรกิจสื่อดิจิตอล ธุรกิจแอลซีดี ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ ธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าดิจิตอล จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่เติบโตเร็วที่สุดแล้ว ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยังเป็นผู้ผลิตโทรทัศน์ดิจิตอล หน่วยความจำ โทรศัพท์มือถือ และจอทีเอฟทีแอลซีดีชั้นนำอีกด้วย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์http://www.samsung.com
เกี่ยวกับไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด คือ ผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที และโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2548 บริษัทมียอดขาย 15.8 พันล้านบาท ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในผลิตภัณฑ์โปรเจคชั่นทีวี พลาสม่าทีวี โทรทัศน์สีจอแบน จอภาพแอลซีดี จอภาพคอมพิวเตอร์ ตู้เย็น ทั้งแบบไซด์บายไซด์และแบบ 2 ประตู บริษัทมีพนักงานประมาณ 2,400 คน ประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ศูนย์บริการกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และโรงงานจังหวัดชลบุรี และประกอบด้วยหน่วยธุรกิจหลัก 3 หน่วย คือ ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าดิจิตอล ธุรกิจสื่อดิจิตอล และธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.samsung.com/th
มร. ชุง จูน คิม
ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจโทรคมนาคม
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
มร. ชุง จูน คิม สั่งสมประสบการณ์ในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมระดับโลกมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ก่อนมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2548 โดยมีหน้าที่รับผิดชอบด้านการวางแผนทิศทางและกำหนดกลยุทธ์ทางการขาย การตลาด และการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วของโทรศัพท์มือถือซัมซุงในประเทศไทย
ตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่ง มร.คิม ให้ความสำคัญกับการนำเสนอนวัตกรรมโทรศัพท์มือถือระดับพรีเมียมที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านเทคโนโลยีและการออกแบบให้กับผู้บริโภคผ่านพันธมิตรทางการค้า และมีการเพิ่มสัดส่วนของส่วนช่วยยกระดับตลาดโทรศัพท์มือถือระดับพรีเมียมเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย
ก่อนมารับตำแหน่งในประเทศไทย มร. คิม เคยประจำอยู่ ที่ ซัมซุง สำนักงานใหญ่ ในกรุงโซล ประเทศเกาหลี ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลด้านการขายและการตลาดของโทรศัพท์มือถือซัมซุง ในภูมิภาคต่างๆ ทั้ง สิงคโปร์ มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ประเทศไทย เวียดนาม และอินเดีย
มร. คิม สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยอินฮา ประเทศเกาหลี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ปริญดา นิลทจันทร์บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
โทร 0-2695-9169 อีเมล์ prinda.n@samsung.com
สุเมธ กาญจนพันธุ์ (เดียร์)
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
โทร 0-2204-8227
อีเมล์ sumet.kanchanapan@jwt.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net