กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--ตลท.
สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียน และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เตรียมยกย่อง คณะกรรมการที่มีคุณภาพอีกครั้ง พร้อมประกาศเกียรติคุณให้เป็น “คณะกรรมการแห่งปี 2549/50” หรือ “Board of the Year Awards 2006/07” หลังจากโครงการดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการสร้างกระแสความตื่นตัวให้คณะกรรมการบริษัทเร่งพัฒนา ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ศ. หิรัญ รดีศรี ประธานกรรมการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และประธานคณะกรรมการโครงการประกาศ เกียรติคุณคณะกรรมการแห่งปี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหมด 7 หน่วยงาน จะจัดให้มีการประกาศเกียรติคุณ “คณะกรรมการแห่งปี 2549/50” หรือ “Board of the Year Awards 2006/07” ขึ้น เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและส่งเสริม คณะกรรมการที่มีคุณภาพ
“โครงการประกาศเกียรติคุณคณะกรรมการแห่งปี 2549/50 (Board of the Year Awards 2006/07) จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดความ ต่อเนื่องในการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ได้ร่วมกันจัดให้มีการประกาศเกียรติคุณ “คณะกรรมการแห่งปี” ขึ้น เพื่อที่จะยกย่องเชิดชูคณะกรรมการของบริษัท เพื่อให้มีการเห็นความสำคัญของคณะกรรมการบริษัท รวมทั้ง ยกย่องและให้กำลังใจแก่คณะกรรมการของบริษัทที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิผลด้วย” ประธานคณะกรรมการ โครงการฯ กล่าว
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึง การสนับสนุนการจัดโครงการประกาศเกียรติคุณคณะกรรมการแห่งปีว่า “ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นความสำคัญของการสร้างกระแสความตื่นตัวให้คณะกรรมการบริษัทมีการพัฒนาประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
โดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการในด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดีให้แก่บริษัทจดทะเบียนใน 3 รูปแบบ คือ 1) การออกข้อกำหนด ข้อพึงปฏิบัติ และคู่มือต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับบริษัทจดทะเบียน 2) การให้คำปรึกษาโดยตรงแก่กรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน โดยคณะที่ปรึกษาศูนย์พัฒนาการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (CG Center) และ 3) การจัดอบรมให้ความรู้ และการจัดสัมมนาในหัวข้อที่สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีแก่ ผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม รวมทั้ง การสนับสนุนให้กรรมการบริษัทจดทะเบียนเข้ารับการอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ คณะกรรมการ
ส่งผลให้คณะกรรมการมีความเข้าใจว่า คณะกรรมการเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งคณะกรรมการที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ก็จะมีกำลังใจและเป็นแบบอย่าง (Role Model) ให้บริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะ ส่งผลให้ เกิดการยกระดับบรรษัทภิบาลในตลาดทุนไทยต่อไป”
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรหนึ่งที่ร่วมจัดการประกาศเกียรติคุณใน ครั้งนี้กล่าวว่า “ หัวใจที่จะนำพากิจการไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก และไม่ว่าจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือไม่ก็ตาม ไปสู่ความเข้มแข็งในการดำเนินงาน เพราะความแตกต่างของขนาดกิจการ และการเป็นบริษัทที่อยู่และไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจมีผลเพียงทำให้โครงสร้างการบริหารจัดการและจำนวนของผู้เกี่ยวข้องในกิจการมีมากน้อยต่างกัน แต่โดยหลักแล้ว การดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม และรับผิดชอบเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกกิจการ
การที่สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยจัดโครงการประกาศเกียรติคุณคณะกรรมการแห่งปีที่มุ่งเน้นคณะกรรมการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะเป็นการเสริมซึ่งกันและกันกับโครงการจรรยาบรรณดีเด่นของหอการค้าไทย ที่จะทำให้ภาพรวมของบริษัทไทยมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น และเป็นตัวอย่างให้เจ้าของกิจการที่อาจยังมีขนาดกลางและเล็กใช้เป็นตัวอย่าง ในการเตรียมความพร้อมของกิจการของตนเองในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไปในอนาคต”
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย ได้ให้ความเห็นว่า “สมาคมธนาคารไทยส่งเสริมให้สมาชิกเห็นถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการ ไม่เพียงแต่สถาบันการเงินเองที่จะต้องพัฒนาการดำเนินงานให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการ แต่สถาบันการเงินยังต้องแสดงบทบาทการเป็นผู้สนับสนุนให้กิจการอื่น ๆ เห็นถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดีด้วย โดยสมาคมฯ ได้รณรงค์ให้สมาชิกนำเอาเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาให้การสนับสนุนทางการเงิน ดังนั้น การส่งเสริมให้คณะกรรมการมีการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีจึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันความเสี่ยงได้อีกทางหนึ่ง”
ดร. ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า “โครงการประกาศเกียรติคุณคณะกรรมการ แห่งปี ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมให้เกิดการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยผ่านคณะกรรมการที่มีคุณภาพนั้น เป็นอีกหนึ่ง กิจกรรมที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทยให้การสนับสนุน เพราะโครงการดังกล่าว นอกจากจะช่วยเปลี่ยนแปลงภาพรวมของตลาดทุนไทยไปสู่ตลาดทุนที่มีความโปร่งใส และเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีแล้ว ในอีกทางหนึ่ง ยังส่งเสริมให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี และน่าเชื่อถือแก่ตลาดทุนไทยในสายตานักลงทุนภายนอกอีกด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวของการลงทุนในตลาดทุนไทยต่อไป”
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา เหรัญญิก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนต้องอาศัย รากฐานการบริหารงานที่มั่นคง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาใช้เป็นแนวปฏิบัติ และคณะกรรมการถือเป็นกลุ่มบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการกำกับดูแลและกำหนดนโยบาย เพื่อให้การดำเนินงานของกิจการเป็นไปอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ดังนั้น นอกจากการประกาศเกียรติคุณคณะกรรมการแห่งปีจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง ”
คุณเพ็ญศรี สุธีรศานต์ ผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทจดทะเบียน ได้ย้ำถึงคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนว่า “ภาพลักษณ์ของบริษัท จดทะเบียนเป็นเสมือนหน้าตาของประเทศซึ่งมีผลต่อการดึงดูดให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุน ภาพลักษณ์ที่ดีจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัย ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ทางด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งก็คือ คณะกรรมการของบริษัท ต้องเป็นผู้ริเริ่มและสื่อสารให้ทุกระดับใน องค์กรปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การยกย่องคณะกรรมการที่มีคุณภาพ จึงเป็นแนวคิดที่ดีที่จะช่วยปลุกเร้าให้ผู้นำของทุกบริษัทอยากที่จะปฏิบัติตาม”
นายชาญชัย จารุวัสตร์ กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ในฐานะผู้ริเริ่มการประกาศเกียรติคุณคณะกรรมการแห่งปี เปิดเผยถึงรายละเอียด และหลักเกณฑ์ของการพิจารณาให้รางวัลคณะกรรมการแห่งปีว่า การประกาศเกียรติคุณคณะกรรมการแห่งปี 2549/50 จะเป็นการยกย่องกรรมการที่มีผลงานดีเด่นในปีที่ผ่านมา คือ ปี 2549 โดยแบ่งประเภทรางวัลออกเป็น 1. คณะกรรมการแห่งปี — ดีเลิศ 2. คณะกรรมการแห่งปี — ดีเด่น 3. เกียรติคุณพิเศษสำหรับคณะกรรมการที่มีผลงานดีต่อเนื่อง โดยจะมีการคัดเลือกคณะกรรมการบริษัทที่ผ่านเกณฑ์เบื้องต้น โดยพิจารณาจากรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มที่ได้รับตราสัญลักษณ์คณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติตั้งแต่ 4 ตราสัญลักษณ์ขึ้นไป หรือมีคะแนนไม่ต่ำ 80% ตามผลการสำรวจของโครงการ Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2006 (CGR 2006) โดยพิจารณาจากผลการประเมินภาพรวมประกอบด้วยผลการประเมินในหัวข้อ Board Responsibilities
“ คณะอนุกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ จะไปสัมภาษณ์คณะกรรมการของบริษัทที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณา โดยจะให้คะแนนใน 6 หัวข้อหลัก ได้แก่ นโยบายของคณะกรรมการ (Board Policy) การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ (Board Performance) โครงสร้างของคณะกรรมการ (Board Structure) แนวปฏิบัติของคณะกรรมการ (Board Style) การจัดเตรียมและการดำเนินการประชุม (Board Meetings) องค์ประกอบและคุณลักษณะของกรรมการ (Board Member) โดยคาดว่า จะประกาศผลการตัดสินในเดือนพฤศจิกายน 2550 ”