“โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” ขยายฐานรุกตลาดใหม่ ประเดิมเปิดโครงการแรกปี 2550 โรงแรมหรูย่านหัวหิน “อัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน”

ข่าวทั่วไป Wednesday April 4, 2007 14:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
“โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” ขยายฐานรุกตลาดใหม่ ประเดิมเปิดโครงการแรกปี 2550 โรงแรมหรูย่านหัวหิน “อัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน” ทุ่มงบกว่า 900 ล้านบาท มุ่งเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ทั้งไทยและต่างชาติ
บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้ดำเนินการโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับ พรี่เมี่ยม ขยายธุรกิจใหม่รับปี 2550 เตรียมเปิดโรงแรมสุดหรูพรีเมี่ยม 5 ดาว “อัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน” ริมชายหาดหัวหิน ด้วยงบลงทุนกว่า 900 ล้านบาท เน้นเจาะกลุ่มไฮเอนด์ทั้งไทยและต่างชาติ ด้วยจุดขายที่แตกต่างไม่ซ้ำแบบใคร รับกระแสท่องเที่ยวหัวหินคึกคักตลอดทั้งปี มั่นใจยอดปีแรกมีผู้เข้าพักกว่า 45-55 % เผยศักยภาพปี 2549 บริษัทฯ เติบโตกว่า 20% พร้อมตั้งเป้าหมายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 30 %
นางนุสรา บัญญัติปิยพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าโดยภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี 2549 ที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ย หรือมาตรการทางการเงินที่กันสำรอง 30 % และสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ทำให้ภาพรวมของตลาดมีอัตราการเติบโตลดลง เนื่องจากผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติเกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วสำหรับมาตรการกันเงินสำรอง 30% ของรัฐบาล จะไม่มีผลโดยตรงต่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ แต่จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ อันเป็นผลมาจากความไม่เชื่อมั่นในนโยบายของรัฐบาล ซึ่งทำให้ช่วงแรก ๆ ของการประกาศนโยบายดังกล่าว ชาวต่างชาติได้ชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทำให้หลายโครงการได้รับผลกระทบในแง่ของยอดขาย แต่ปัจจุบันก็เริ่มปรับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว นอกจากนั้นในส่วนของอัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับตัวลดลงตลอดทั้งปีที่ 0.5 - 1% จากช่วงปลายปี 2549 โดยหลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เงินกู้ลูกค้าชั้นดีแบบมีกำหนดระยะเวลา (MLR) ลงเหลือ 0.25 % เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงของอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี การลดลงดังกล่าวจะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีกำลังซื้อสูงขึ้น 7 — 8%
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้รับผลกระทบต่อปัจจัยดังกล่าวเล็กน้อย เนื่องมาจากบริษัทฯ มีแผนการตลาดที่ชัดเจน คือ เน้นเจาะเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังสูงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นหลัก ประกอบกับทิศทางในการพัฒนาโครงการของบริษัท ฯ เน้นในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา หรือหัวหินที่มีอนาคตการเติบโตไปได้ด้วยดี และยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกลุ่มลูกค้านี้สูงมากในแหล่งดังกล่าว
นางนุสรากล่าวว่า สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ มีการดำเนินการต่อเนื่องจากในปี 2549 โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน สำหรับโครงการที่มีอยู่ในขณะนี้ทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,700 ล้านบาท คือ ส่วนที่ 1 การเปิดให้บริการของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่หัวหิน คือ โรงแรมอัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน มูลค่าโครงการประมาณ 900 ล้านบาทเศษ อย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม โดยเน้นจุดขายที่แตกต่างไปจากโรงแรมอื่นๆ ในหัวหิน คือ เป็นโรงแรมเพียงแห่งเดียวที่มีห้องพักขนาดใหญ่แบบพูลวิลล่าและสวีท เท่านั้น ด้วยการแบ่งสัดส่วนการใช้ที่ดินภายในโครงการ จำนวน 22 ไร่ จัดสรรเป็นห้องพักเพียงแค่ 96 ยูนิต ซึ่งทำให้มีพื้นที่พักผ่อนส่วนกลางอย่างเต็มที่ และเน้นความเป็นส่วนตัวที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มไฮเอ็นด์อย่างแท้จริง
ส่วนที่ 2 การเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการที่เปิดตัวไปแล้ว ได้แก่ โครงการแรก โอเชี่ยน พอร์โตฟีโน่ คอนโดมิเนียม ที่อยู่ในพื้นที่ของโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ทคลับ ริมชายหาดจอมเทียน พัทยา มูลค่าโครงการประมาณ 1,800 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้ จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 70 % ของมูลค่าโครงการ ปัจจุบันมียอดขายกว่า 52% แบ่งเป็นคนไทยและต่างชาติอย่างละเท่า ๆ กัน โดยปีนี้จะเน้นการทำกิจกรรมโรดโชว์ในต่างประเทศ ในขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 39% แบ่งเป็นด้านสถาปัตยกรรมและโครงสร้าง ได้ดำเนินการก่อสร้างถึงชั้น 18 ด้านงานระบบเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 15% โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีความคืบหน้ากว่า 80% และโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2551
ส่วนโครงการที่ 2 โอทู ฮิป คอนโดมิเนียม บริเวณใจกลางเมืองย่านซอยนายเลิศ ถนนวิทยุ ใกล้สถานทูตอังกฤษ มูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท ได้รับผลดีจากการปรับตัวขึ้นของตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ที่ได้ปรับตัวขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 70,000 บาทต่อตารางเมตร มาอยู่ในระดับประมาณ 100,000 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่โครงการโอทู ฮิป มีราคาอยู่ที่ตารางเมตรละ 91,800 — 128,000 บาท เป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขาย ส่วนการดำเนินการก่อสร้างในปัจจุบันได้เริ่มสร้างส่วนของฐานรากและชั้นจอดรถใต้ดิน ปัจจุบันมียอดจองประมาณ 20% จากการที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ โดยโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2551
นางนุสรากล่าวว่า ในปีนี้ยังได้เตรียมพัฒนาโครงการโอเชี่ยน วิลล่า หัวหิน ในบริเวณพื้นที่เดียวกับโรงแรมอัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท เป็นบ้านพักผ่อนระดับหรูหรา ออกแบบเป็นบ้านสไตล์คอนเท็มโพลารี่หัวหินโบราณผสมผสานระหว่างไทยและวิคตอเรียน ประกอบด้วยบ้าน 3 สไตล์ มีพื้นที่ตั้งแต่ขนาด 100 - 300 ตารางวา ขนาดประมาณ 3 - 6 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นอยู่ระหว่าง 20-25 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวนทั้งสิ้น 18 ยูนิต โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
นายกล้า กิจการ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจโรงแรม บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า โรงแรมอัสสรา วิลล่า แอนด์ สวีท หัวหิน สามารถที่จะเปิดให้บริการห้องพักได้อย่างสมบูรณ์แบบในเดือนพฤษภาคมนี้ บนพื้นที่ 22 ไร่ บริเวณริมชายหาดหัวหินซอย 5 ใกล้กับสนามบินหัวหิน ใช้กลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนทั้งคนไทยและต่างชาติ เน้นสร้างความประทับใจรื่นรมย์และสะดวกสบาย พร้อมประสบการณ์พิเศษแห่งการพักผ่อนให้กับลูกค้าอย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน ด้วยรูปแบบการดีไซน์ตกแต่งในสไตล์คอนเท็มโพลารี่อันเรียบหรูท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกสบายและธรรมชาติ แบ่งกลุ่มห้องพักออกเป็น 2 ส่วน คือ พูลวิลล่า และห้องพักแบบสวีท ได้แก่ พูลวิลล่า จำนวน 52 ยูนิต มีบ่อว่ายน้ำส่วนตัวภายในบริเวณวิลล่าทุกยูนิต และห้องพักแบบสวีท จำนวน 44 ยูนิต ภายในโรงแรมรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 2 สระ สระดินธรรมชาติ 1 สระ ห้องอาหาร 3 ห้อง 3 สไตล์ ห้องประชุมขนาดใหญ่ โอเรียนทอลสปา และ ฟิตเนส ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาหัวหินตลอดทั้งปี ปีละไม่น้อยกว่า 900,000 คน
“ทางด้านกลยุทธ์กิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์และกิจกรรมการตลาด ได้เน้นรูปแบบกิจกรรมโรดโชว์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายโดยตรง ซึ่งในช่วงแรกได้เดินทางแนะนำโครงการที่งานอินเตอร์เนชั่นแนล ทัวริซึ่ม โบรส์ 2007 “International Tourisms Borse 2007 (ITB 2007)” เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน โดยได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวสแกนดิเนเวีย อังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย และเอเชีย เป็นต้น และต่อมาคาดว่าจะเดินทางเพื่อแนะนำโครงการที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเมืองโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายในตลาดฮันนีมูน
นางนุสรากล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ทคลับ ยังได้จัดเตรียมกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวเมืองพัทยากับกิจกรรมการแข่งขันเรือใบระดับนานาชาติ หรือ Top of The Gulf International Regatta 2007 ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ระหว่าง 3 - 7 พฤษภาคมนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์การเล่นเรือใบบริเวณทะเลพัทยาให้กลายเป็นศูนย์กลางของเรือใบและเรือยอช์ทในระดับสากลมากขึ้น พร้อมกันนี้ทางโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์คลับ ยังได้รับการคัดเลือกจากจากคณะกรรมการสาขาสนามแข่งขัน สนามฝึกซ้อมและการติดตั้งอุปกรณ์กีฬา ในคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคกีฬา การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ.2550 (Sport Technical Committee) แต่งตั้งให้เป็นสนามหลักในการแข่งขันกีฬาเรือใบทุกประเภท รวมทั้งเป็นสนามเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติไทย สนามฝึกซ้อมของนักกีฬาจาก 6 ประเทศ และเป็นศูนย์อำนวยการใหญ่ของการรายงานผลการแข่งขันกีฬาทางน้ำทุกประเภทที่แข่งในกีฬาซีเกมส์ ทั้งนี้ เกณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือก พิจารณาจากความพร้อมของสถานที่ในทุกๆด้าน ได้แก่ สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอย่างครบสมบูรณ์ ทั้งในเรื่องท่าจอดเรือในน้ำและบนบก ระบบเครนนำเรือขึ้น-ลง การติดต่อสื่อสาร การบริการซ่อมบำรุงและดูแลรักษา การรักษาความปลอดภัย และความสะดวกในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ทำให้ทางสมาพันธ์ซีเกมส์ฯ เชื่อมั่นในศักยภาพความสมบูรณ์แบบของสนามแข่งขันแห่งนี้ที่จะสามารถรองรับความต้องการของนักกีฬาที่เข้ามาใช้บริการได้อย่างเต็มที่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์ : -
คุณประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน
โทรศัพท์ 0-2204-8216หรือ 081-586-2813
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ โทรศัพท์ 0-2204-8221หรือ 089-127-2089
บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด:-
สำนักงานขาย โทรศัพท์ 02-661-6800 ต่อ 606
www.oceanproperty.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ