กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--เอ็นจอย คอมมูนิเคชัน
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ถือเป็นมหาวิทยาลัยเปิดเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่จัดให้มีการจัดการเรียนการสอนระบบทางไกล และเปิดโอกาสเรียนรู้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้การศึกษาตลอดชีวิตสำหรับทุกคน ซึ่งความต่างเหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นของมสธ. ที่ทำให้แต่ละปีมีนักศึกษาหลั่งไหลก้าวเข้ามาสู่รั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้หลายหมื่น แต่ทว่าปัจจุบันการเติบโต-แข่งขันทางการศึกษามีมากขึ้น ทำให้มหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนหลายแห่งต่างหันมาสนใจ และเปิดการเรียนการสอนระบบทางไกลกันมากขึ้น
เพื่อก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาในยุคโลกาภิวัฒน์ มสธ. ซึ่งกำลังก้าวย่างสู่ปีที่ 32 ในปีนี้ จึงจัดทำร่าง STOU Road Map 2009-2023 ขึ้น เพื่อจัดระบบการเรียนการสอน สื่อการศึกษาทางไกล ระบบสนับสนุนนักศึกษา/นักวิจัย ระบบการบริหารวิชาการแก่สังคม ชุมชน การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม การวิจัย การบริหารจัดการ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ(ICT) ระบบทรัพยากรบุคคล และระบบ University Finance เพื่อยกระดับคุณภาพ มาตรฐานก้าวสู่มหาวิทยาลัยทางไกลครบวงจร
ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่ามสธ. มีวิสัยทัศน์ เป็นมหาวิทยาลัยเปิดที่ใช้ระบบการศึกษาทางไกลชั้นนำของโลก ให้การศึกษาตลอดชีวิตสำหรับทุกคน แต่ในอนาคตเมื่อเข้าสู่โลกใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มสธ.ต้องปรับวิสัยทัศน์ให้ก้าวไกลมากขึ้น นั่นหมายความว่า อีก 15 ปีข้างหน้าต้องดูผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวนประชาชน วัยเด็กลดลง วัยแรงงานลดลง และวัยสูงอายุมากขึ้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาที่มาเรียนมสธ.เป็น วัยแรงงาน แต่เมื่อวัยแรงงานลดลง มสธ.ควรเพิ่มกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเพิ่มเติม โดยมสธ.ต้องจัดการศึกษา เพื่อยกระดับแรงงานควบคู่การพัฒนาหลักสูตร งานวิจัย เพื่อจัดการศึกษาสำหรับผู้สูงอายุ และการศึกษาตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ ส่วนเรื่องของพลังงาน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และตลาดแรงงาน ต้องดูผลกระทบ ที่เกิดขึ้นในแต่ละด้าน เพิ่มบทบาทสร้างงานวิจัย หาพลังงานทดแทน พัฒนาให้เกิดเศรษฐกิจฐานความรู้ เศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง
“ในอีก 15 ปีข้างหน้า แนวทางในการพัฒนาบัณฑิตไม่ใช่เพียงการตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน หรือประเทศไทยเท่านั้น แต่ต้องขยายฐานไปถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลกด้วย โดยนักศึกษาต้องมีความรู้ความสามารถทางด้านภาษา มีคุณภาพ มีคุณธรรมจริยธรรม สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์ รวมไปถึงต้องส่งเสริมพัฒนาบุคลากรของท้องถิ่น ศึกษางานวิจัยที่เอื้อต่อการสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม พัฒนาคุณภาพบริการสาธารณะและต้องหาแนวทางในการลดปัญหาความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
ภายหลังการจัดการการศึกษาระดับปริญญาตรีบัณฑิตศึกษา โดยระบบการศึกษาทางไกลได้รับความสำเร็จและได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐาน ทำให้ มสธ.อยู่ในระดับเดียวกับมหาวิทยาลัยระบบปิด ในประเทศ ซึ่งแผน STOU Road Map 2009-2023 15 ปีดังกล่าว เป็นการพัฒนาเพื่อให้มหาวิทยาลัยก้าวสู่การยอมรับจากต่างประเทศร่วมด้วย
รศ.ดร.เทพศักดิ์ บุณยรัตพันธ์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาระบบงาน มสธ. กล่าวว่า แผนในการพัฒนามหาวิทยาลัยอีก 15 ปีข้างหน้านั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 5 ปี โดยในแต่ละช่วงเน้นการพัฒนาที่ต่อเนื่องกัน นั่นคือ การพัฒนาการจัดการศึกษาทางไกลเพื่อพัฒนา ปรับหลักสูตรให้ตรงตามมาตรฐาน TQF ภายในปี 2555 สอดคล้องกับการผลิตภาพทางเศรษฐกิจและสังคม อันนำไปสู่การสร้างงานวิจัย พัฒนาหลักสูตรใหม่ที่เป็นนวัตกรรมระดับอาเซียน และสากล ขณะเดียวกันการผลิตบัณฑิต จะเน้นการเรียนโดยนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง พัฒนาสื่อการเรียนการสอน หลักสูตร นำไอซีทีเข้ามาใช้ในการจัดกิจกรรมการสอนทั้งในระดับปริญญาตรี ขณะที่บัณฑิตศึกษาจะใช้เป็นสื่อคู่ขนาน เพราะในอนาคตปริญญาตรีอย่างเดียวคงไม่พอ คนหนึ่งคนคงเรียนหลายดีกรีมากขึ้น
ขณะที่นำไอซีทีมาเป็นสื่อการเรียนการสอนในการจัดการศึกษาทางไกลแล้ว มหาวิทยาลัย ยังจัดทำแผนแม่บทด้านการวิจัยสำหรับการเรียนการสอนทางไกลด้วย เพื่อที่15 ปีข้างหน้า จะมีงานวิจัย นวัตกรรมการเรียนการสอนทางไกลที่ก้าวไกล และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
รศ.ดร.เทพศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของวิชาการ ปรับสู่การจัดการศึกษาทางไกล โดยให้ผู้เรียนได้เรียนมากขึ้น นำสื่อมัลติมีเดียเข้ามาสร้างปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน เช่น เฟสบุ๊ค ทวิสเตอร์ เว็บบอร์ด เพื่อให้นักศึกษาที่มีโทรศัพท์ มีI-PAD สามารถเข้าถึงสื่อได้ง่าย เพื่อนำไปสู่การวางแผนออกแบบเนื้อหาชุดวิชา Convergence Media โดยเน้นความสะดวกของผู้เรียนเป็นหลัก ขณะที่บุคลากรของมหาวิทยาลัย คณาจารย์ ต้องอบรมเพิ่มเติม สร้างหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ใหม่ขึ้นมา เพื่อการพัฒนาบัณฑิตให้มีความพร้อมในทุกๆด้าน เพราะต่อให้เป็นมหาวิทยาลัยเปิด ก็ต้องเป็นมหาวิทยาลัยเปิดที่มีคุณภาพ และเป็นการศึกษาตลอดชีวิตได้กับทุกคน
“ร่างแผน 15 ปีนั้น ในช่วง 5 ปีแรก ซึ่งเป็นการนำแนวคิดการจัดการสมัยใหม่มากำหนดให้โครงสร้างหลักสูตร วิชาการ ระบบบริหารมหาวิทยาลัยเข้มแข็ง ซึ่งได้รับการเห็นชอบจาก สภามหาวิทยาลัยในการดำเนินการ เพื่อพัฒนาเป็นฐานความรู้ใหม่ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเข้ามา เสาะแสวงหา คลังความรู้ จากมสธ. ก่อนนำไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเปิดที่สอนโดยนวัตกรรม การสอนทางไกล เน้นเรียน วิจัย เชิงนวัตกรรมใหม่ ที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อให้มสธ.เป็นมหาวิทยาลัยเปิดที่สามารถศึกษาได้ตลอดชีวิตตรงตามวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร”