กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์
AP เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก รายได้รวมเท่ากับ 8,266 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 1,525 ล้านบาท ภาพรวมรายได้เพิ่มขึ้นจากพอร์ตสินค้าคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมทยอยโอนต่อเนื่องมากถึง 7 โครงการ หลังทุกอย่างสงบความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มฟื้น สะท้อนได้จากยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้น มากถึง 7,000 ล้านบาท พร้อมทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีมูลค่ามากถึง 15,746 ล้านบาท เตรียมลุยเปิดตัวโครงการใหม่รวม 12 โครงการ มูลค่ารวม 15,830 ล้านบาท
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้ดีเยี่ยม โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 8,266 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่เกิดในช่วงไตรมาส 1 เท่ากับ 6,093 ล้านบาท และของไตรมาส 2 เท่ากับ 2,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.9% หากเทียบกับรายได้รวมครึ่งปีแรกในปีที่ผ่านมาที่เท่ากับ 5,011 ล้านบาท
ด้านกำไรสุทธิครึ่งปีแรกเท่ากับ 1,525 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิที่เกิดในช่วงไตรมาส 1 เท่ากับ 1,239 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 116.2% หากเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2552 ที่มีกำไรเท่ากับ 705 ล้านบาท สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นครึ่งปีแรก 2553 เท่ากับ 35.7% เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2552 เท่ากับ 33.5%
สำหรับภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2553 นั้น 34% ของรายได้ทั้งหมดมาจากสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องมากถึง 7 โครงการ และที่เหลือมาจากสินค้าประเภทแนวราบ โดย 14% ของรายได้มาจากโครงการบ้านกลางเมือง Urbanion เกษตร-นวมินทร์ 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และ 9% มาจากโครงการบ้านกลางเมือง Urbanion พระราม 9-ลาดพร้าว ที่เปิดตัวไปเมื่อไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ความคืบหน้าด้านยอดขาย จนถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 15 สิงหาคม) บริษัทฯ มียอดขายรวมจำนวน 6,955 ล้านบาท มาจากสินค้าแนวราบ 4,295 ล้านบาท และจากคอนโดมิเนียม 2,660 ล้านบาท โดยยอดขายทั้งหมดปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับในส่วนของบริษัทฯ เองแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ก็เริ่มในช่วงสถานการณ์ต่างๆ คงที่แล้วเช่นกัน จึงส่งให้ยอดขายรวมของบริษัทฯ อยู่ในอัตราที่น่าพึงพอใจ
ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวบ้านเดี่ยว 2 โครงการ The Centro รามอินทรา และ The Centro รัตนาธิเบศร์ มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท เฉลี่ย 12 ยูนิตต่อเดือน ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราที่น่าพอใจ นอกจากนั้น ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดตัวโครงการบ้านกลางกรุง สาทร มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท โดยโครงการนี้พร้อมส่งมอบและรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวทาวน์เฮ้าส์ 3 โครงการ ได้แก่ บ้านกลางเมือง Urbanion ลาดพร้าว-เสนา ยอดขาย 37% บ้านกลางเมือง Urbanion พระราม 3-สุขสวัสดิ์ ยอดขาย 75% และ BIZTOWN พระราม 3-สุขสวัสดิ์ (โฮมออฟฟิศ) ยอดขาย 33%
“หลังจากที่เราเปิดตัวโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ส่งผลให้ยอดขายจากโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น จาก 998 ล้านบาทในไตรมาส 1 เป็น 2,155 ล้านบาทในไตรมาส 2 และส่วนหนึ่งในไตรมาส 3 จนถึง ณ ปัจจุบัน เท่ากับ 1,423 ล้านบาท โดยยอดขายจากจากสินค้าประเภทแนวราบจะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ของบริษัทในปีนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากสินค้าแนวราบใช้เวลาเพียง 3-6 เดือนหลังจากการเปิดขายก็สามารถโอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังจากนี้จนถึงสิ้นปีบริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีกจำนวนรวม 11 โครงการ มูลค่ารวม 22,630 ล้านบาท เป็นแนวราบจำนวน 6 โครงการ มูลค่า 8,830 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 13,800 ล้านบาท“
ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน ( 15 สิงหาคม) บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มากถึง 15,746 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่า 2,834 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมมูลค่า 12,911 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2556