AFET เปิดเผยผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1 มูลค่าการซื้อขาย ร่วม 7,300 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Thursday April 26, 2007 16:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--AFET
AFET เปิดเผยผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1 มูลค่าการซื้อขาย ร่วม 7,300 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว AFET-SMS Futures Price Alert 4874321 เช็คราคาล่วงหน้าผ่านมือถือ สร้างความรวดเร็วในการลงทุน
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2550 มีปริมาณการซื้อขายรวม 20,170 ข้อตกลง คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายร่วม 7,300 ล้านบาท ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ยังคงเป็นพระเอกในไตรมาสนี้ พร้อมเปิดตัว AFET-SMS Futures Price Alert 4874321 ระบบรายงานราคาซื้อขายล่วงหน้าผ่านมือถือ ให้ลูกค้าเช็คราคา ได้สะดวก รวดเร็ว ไม่พลาดทุกนาทีของการลงทุน
นางนภาภรณ์ คุรุพสุธาชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมการซื้อขายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 นั้น มีปริมาณการซื้อขายรวมจำนวนทั้งสิ้น 20,170 ข้อตกลง หรือคิดเป็นมูลค่า 7,285.33 ล้านบาท โดยยางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) ยังคงเป็นสินค้าที่ปริมาณการซื้อขายมากที่สุด เป็นจำนวน 17,354 ข้อตกลง คิดเป็นมูลค่าการซื้อขาย 6,966.42 ล้านบาท ข้าวขาว 5% (WR5P) มีปริมาณการซื้อขายเป็นลำดับที่ 2 โดยมีปริมาณการซื้อขายจำนวน 1,510 ข้อตกลง คิดเป็นมูลค่า 235.53 ล้านบาท ตามมาด้วยมันสำปะหลังเส้น (TC) ที่มีปริมาณการซื้อขายเป็นลำดับที่ 3 จำนวน 1,284 ข้อตกลง คิดเป็นมูลค่า 77.52 ล้านบาท และน้ำยางข้น (Latex) ที่มีปริมาณการซื้อขายจำนวน 22 ข้อตกลง หรือคิดเป็นมูลค่า 5.86 ล้านบาท
ทางด้านปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมีจำนวนทั้งสิ้น 325 ข้อตกลง หรือคิดเป็นมูลค่า 117.50 ล้านบาท โดย ยางแผ่นรมควันชั้น 3 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันจำนวน 280 ข้อตกลง หรือคิดเป็นมูลค่า 112.36 ล้านบาท ข้าวขาว 5% มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันจำนวน 24 ข้อตกลง หรือคิดเป็นมูลค่า 3.80 ล้านบาท มันสำปะหลังเส้น มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน จำนวน 21 ข้อตกลง คิดเป็นมูลค่า 1.25 ล้านบาท และน้ำยางข้น มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน จำนวน 1 ข้อตกลง หรือคิดเป็นมูลค่า 0.09 ล้านบาท
ในส่วนของปริมาณการซื้อขายสูงสุดในไตรมาสที่ 1 นี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 671 ข้อตกลง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ โดยแบ่งเป็นการซื้อขาย ยางแผ่นรมควันชั้น 3 จำนวน 552 ข้อตกลง ข้าวขาว 5% จำนวน 80 ข้อตกลง และ มันสำปะหลังเส้น จำนวน 39 ข้อตกลง
สำหรับปริมาณการซื้อขาย และมูลค่าการซื้อขายในภาพรวมไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 นั้นมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 อยู่ประมาณ 13.8 % สืบเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความสนใจในการฝากเงินกับธนาคารมากกว่าการลงทุนในตลาด AFET ซึ่งจะมีเรื่องของผลกระทบจากปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานของสินค้าในตลาดโลก นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา ราคาของสินค้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 ซึ่งเป็นสินค้าหลักของตลาดก็มิได้มีความผันผวนมากนัก จึงทำให้นักเก็งกำไรที่จะเข้ามาแสวงหาผลกำไรจากความผันผวนของราคามีจำนวนลดลง แต่คาดว่าหากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศดีขึ้น ก็จะทำให้นักลงทุนกลับมาลงทุนกันเช่นเดิม”
นางนภาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า “สำหรับในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 นี้ AFET ก็ยังได้มีการพัฒนางานด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ให้เป็นลักษณะข้อตกลงแบบ both options เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขายปิดสถานะการซื้อขายแบบ Cash Settlement นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนางานด้านเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จจากการจัดทำระบบซื้อขายล่วงหน้าผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (AFETDIRECT) เมื่อปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ AFET ได้จัดทำระบบรายงานราคาผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ หรือ AFET-SMS Futures Price Alert เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางรายงานราคาล่วงหน้าสินค้า Commodity ซึ่งนับเป็นข้อมูลที่สำคัญแก่ลูกค้าในการตัดสินใจซื้อขาย”
สำหรับ SMS-Futures Price Alert จะเป็นบริการที่ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบราคาซื้อขายล่วงหน้าของสินค้า ผ่านทางระบบ SMS จากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของ เอไอเอส ดีแทค และ ทรูมูฟ โดยบริการที่จะมีการรายงานผ่านทางระบบ SMS จะประกอบไปด้วย รายงานภาพรวมราคาซื้อขายล่วงหน้า 6 เดือนของสินค้าแต่ละประเภท รายงานราคาซื้อขายล่วงหน้าแบบละเอียด และที่นับเป็นบริการเด่น คือ ระบบ Price Alert ที่จะส่งข้อความเตือนไปยังลูกค้า เมื่อราคาต่างๆ ทั้ง ราคา Matching ราคา Bid และ ราคา Offer เป็นไปตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งนับเป็นการสร้างความสะดวก รวดเร็ว และไม่ทำให้พลาดทุกข้อมูลของการซื้อขาย ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ SMS-Futures Price Alert ก็สามารถทำได้โดย ตรวจสอบ
รหัสสินค้า รหัสเดือน และ รหัสปี ของสินค้าแต่ละประเภทที่ต้องการตรวจสอบราคา จากนั้นเลือกพิมพ์รหัสซื้อขายให้ตรงกับบริการที่ต้องการทราบ แล้วส่งมาที่หมายเลข 4874321 ระบบก็จะทำการส่งข้อมูลกลับให้ โดยมีอัตราค่าบริการครั้งละ 3 บาท ทั้งนี้ผู้ที่สนใจก็สามารถตรวจสอบรายละเอียดของระบบพร้อมเช็ครหัสสำหรับการพิมพ์ ได้ทาง www.afet.or.th/sms หรือ 0-2263-9888
“เราเชื่อมั่นว่า การจัดทำระบบ SMS จะเป็นการเพิ่มช่องทางในติดตามรายงานราคาล่วงหน้าให้แก่กลุ่มที่เกี่ยวข้องทั้ง ผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมทั้งบริษัท นายหน้าซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งในส่วนของบริษัทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้านั้น ระบบ SMS นับเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบราคาซื้อขายด้วยตนเอง ซึ่งทาง AFET ก็มีการเตรียมความพร้อมในการจัดอบรมเรื่องการใช้งานระบบ SMS Futures Price Alert ให้แก่บริษัทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปถ่ายทอดแก่ลูกค้าได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด” นางนภาภรณ์ กล่าวสรุป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คุณอริสรา ธนูแผลง
ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET)
โทรศัพท์ 0- 2263-9827 มือถือ : 081-561-4745
โทรสาร : 0-2685-3345 หรือ e-mail : arisara@afet.or.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ