กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--ก.ไอซีที
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยความคืบหน้าการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สธอ.) ว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) มีมติอนุมัติให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ในสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตามที่คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการด้านเศรษฐกิจ (อ.ก.พ.ร.) เสนอแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้ลงนามในหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อส่งร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงฯ และเพิ่มขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ สธอ. เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา
จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงบประมาณ และสำนักงานปลัดกระทรวงไอซีที เพื่อพิจารณาปรับปรุงร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงฯ เป็นที่เรียบร้อย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เสนอร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) พร้อมทั้งขอให้สำนักงานปลัดกระทรวงฯ แจ้งยืนยันความเห็นชอบในร่างกฎกระทรวงฯ ที่ผ่านการพิจารณานี้ ไปยัง สลค. โดยตรงด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ลงนามในหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งยืนยันความเห็นชอบร่างกฎกระทรวงฯ แล้ว และขอให้ สลค.นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) นั้น ได้มีการจัดทำรายละเอียดคำขอจัดตั้งสำนักงานฯ พร้อม (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เพื่อเสนอเรื่องการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ เข้าที่ประชุม ครม. ซึ่งกระทรวงฯ ได้เสนอให้ ครม. พิจารณา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2553 และครม.มีมติมอบหมายให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.พ.ร. รับเรื่องนี้ไปพิจารณาใน ก.พ.ร. เป็นกรณีเร่งด่วน แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
ส่วนรายละเอียดในการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) นั้น ได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง ก.พ.ร. นายรอม หิรัญพฤกษ์ ทีมที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการฯ สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (สบทร.) ในประเด็นสำคัญๆ คือ ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ (สำนักงานปลัดกระทรวงฯ) และขอบเขตอำนาจหน้าที่ขององค์การมหาชน ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยงานที่เป็นส่วนราชการอยู่ จึงต้องมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในภารกิจ ด้านโครงสร้างการบริหารงานได้กำหนดให้ขึ้นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยคล่องตัว มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการบริหาร
“โดยนโยบายที่ผมได้วางนั้น กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และสำนักส่งเสริมและพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นส่วนราชการของสำนักงานปลัดกระทรวงฯ จะต้องดำเนินการใน 4 ด้าน คือ 1.งานด้านนโยบายและแผน 2.ภารกิจตามกฎหมาย 3.การกำกับดูแล และ 4.การติดตามและประเมินผล ขณะที่ภารกิจขององค์การมหาชนที่จะจัดตั้งใหม่ จะเป็นงานในส่วนของภาคปฏิบัติที่รวมถึงการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะสอดคล้องกับหลักการของการจัดตั้งองค์การมหาชนและข้อสังเกตของ ก.พ.ร.ด้วย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ จะได้มีการนำรายละเอียดการจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ทั้งในส่วนของขอบเขตอำนาจหน้าที่ บทบาทภารกิจที่ชัดเจน รวมถึงตัวชี้วัดที่สำคัญ กระบวนการจัดเก็บ แหล่งข้อมูล วิธีการวัดที่เป็นรูปธรรมชัดเจน และผลงานที่โดดเด่นขององค์การมหาชนที่เสนอขอจัดตั้ง เพื่อประกอบการพิจารณา เช่น ถ้าจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ แล้ว ประชาชนและประเทศชาติจะได้อะไร โดยจะนำเสนอให้คณะกรรมการ ก.พ.ร.พิจารณาอย่างเร่งด่วน แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป” นายจุติ กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 021416747 MICT