บลจ.ยูโอบี เผยผลตอบรับท่วมท้นกองทุน FIF 6 กองรวดเดือนก.ค. รวมมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท พร้อมจ่อออกอีก 3 กองทุนใหม่ต่อเนื่องทันที

ข่าวทั่วไป Tuesday July 31, 2007 13:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--ธนาคารยูโอบี
บลจ.ยูโอบี เผยผลตอบรับท่วมท้นจากกองทุน FIF ทั้ง 6 กองทุนที่ออกในช่วงเดือนก.ค. 2550 ด้วยยอดจองเต็มมูลค่าทุกโครงการ พร้อมเตรียมแผนออกกองทุนใหม่ต่อเนื่อง อีก 3 กองทุน ทั้งกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในต่างประเทศ 2 กองทุนและกองทุนเปิดที่มีผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี SET 50 รองรับแนวโน้มตลาดทุนเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปี 2550
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ. ยูโอบี ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามจากการออกกองทุนตราสารหนี้ประเภทลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund: FIF) ทั้ง 6 กองทุน ตลอดช่วงเดือนก.ค. 2550 นี้ ไม่ว่าจะเป็น กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เอเชีย (UOBSA) ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จากความมั่นใจในการลงทุนในตราสารทุนของภูมิภาคตลาดเอเชียว่ามีปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจดี และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวได้ปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกเมื่อ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีผู้สนใจลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท ซึ่งเกินยอดเงินทุนโครงการ 1,700 ล้านบาท สำหรับนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนกองทุนนี้เพิ่มเติมสามารถลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2550
ขณะเดียวกัน บลจ. ยูโอบี เพิ่งปิดการขายกองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ 6/1 ถึง กองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ 6/5 รวม 5 กองทุน ซึ่งเริ่มเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกเมื่อ 16 ก.ค. 2550 ต่อเนื่องจนถึง 27 ก.ค. 2550 นั้น มียอดเงินลงทุนเต็มมูลค่าทุกโครงการทั้ง 5 กองทุน ด้วยมูลค่ารวมถึง 8,000 ล้านบาท
นายวนา กล่าวต่อว่า จากความสำเร็จดังกล่าว บลจ. ยูโอบี เตรียมเปิดกองทุนใหม่ต่อเนื่อง อีก 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ 6/6 และ กองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ 6/7 โดยทั้ง 2 กองทุนนี้เป็นกองทุนตราสารหนี้ประเภทลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund) ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (Specific Fund) เน้นลงทุนเฉพาะตราสารหนี้ของสถาบันการเงินที่เสนอขายในต่างประเทศและมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในสองอันดับแรกไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับส่วนที่เหลือ กองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและสถาบันการเงิน หรือเงินฝากในประเทศที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้เพื่อให้กองทุนมีความเสี่ยงที่ต่ำและมีผลตอบแทนที่คาดหวังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก โดยไม่ต้องเสียภาษี (สำหรับนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา)
“กองทุนนี้มีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน มีมูลค่าโครงการกองทุนละ 1,600 ล้านบาท สำหรับกองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ 6/6 เปิดเสนอขายครั้งแรก ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. — 6 ส.ค. 2550 ส่วนกองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ 6/7 เปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 1 — 9 ส.ค. 2550”
นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี กล่าวเพิ่มเติมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า บลจ. ยูโอบี กำลังจะออกกองทุนเปิด UOB Select SET 50 Index Link 1 ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน อายุโครงการประมาณ 3 ปี ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงซึ่งออกโดยธนาคารพาณิชย์ ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับค่าเฉลี่ยดัชนี SET50 Index เพื่อโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ตอบรับกระแสธุรกิจไทยที่มีแนวโน้มเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี 2550 โดยกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 6-14 ส.ค. 2550 นี้ สำหรับนักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามและติดต่อจองซื้อหน่วยลงทุนได้ที่ฝ่ายบริการผู้ถือหน่วย บลจ. ยูโอบี เครือข่ายสาขาทั่วประเทศของธนาคารยูโอบี และผู้สนับสนุนการขายอื่นๆ
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
สายงานนิเทศสัมพันธ์
จิรา ศุภชยานนท์, บุญญาพร วงษ์ใบแก้ว, พรศิลป์ ชิโนเรสโยธิน
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
โทร. 0-2343-4963, 0-2343-4973
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ไทย) จำกัด
ชุติพนธ์ อัชวรานนท์ (เอก)
โทร. 0-2679-5577 ต่อ 651

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ