กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--ธนบุรินทร์ เอเชีย แปซิฟิค
สำหรับใครสักคนที่มีความฝันอยากจะเปิดโลกทัศน์สู่โลกกว้าง ด้วยการเดินทางท่องเที่ยวไปที่ต่าง ๆ แล้ว ล่ะก็ ว่ากันว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่มีส่วนการตัดสินใจไม่น้อยคือการได้มีโอกาสทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ ผ่านโสตประสาทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางหู หรือทางตาก็ตาม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ รายการ "มอร์นิ่ง ทอล์ค" ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ เวลา 08.00-08.30 น. ทีเอสซี (ช่อง 11/2) เวลา 08.00-08.30 น. ยูบีซี-ทรู 60 และยูบีซี-ทรู 94 เวลา 10.30 น. 17.00 น. และ 20.00 น. และไทยทีวีโกลบอล เน็ตเวิร์คใน 170 ประเทศทั่วโลก ได้มีโอกาสไปเยือนและสัมผัสสหพันธรัฐรัสเซีย
สหพันธรัฐรัสเซีย มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีความร่ำรวยทางวัฒนธรรมประเทศหนึ่งของโลก มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งทวีปยุโรปและเอเชีย โดยทางรายการฯ ได้เริ่มต้นการเดินทางที่ กรุงมอสโก (Moscow) เมืองหลวงของสหพันธรัฐรัสเซีย ศูนย์กลางการเมืองและการปกครอง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดเมืองหนึ่งของโลก หลายครั้งที่เมืองนี้ถูกทำลายลงเพราะสงครามแย่งชิงอำนาจแต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า และความงามของศิลปะก็งดงามทวีขึ้นเป็นเงาตามตัว นั่นเป็นเพราะรัสเซียเป็นแหล่งรวมนักสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกนั่นเอง
เริ่มต้นวันแรกของการเดินทางด้วยการเข้าชม พระราชวังเครมลิน (Kremlin in Moscow) ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงมอสโกและเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่เพียงแต่เป็นที่พำนักของผู้นำรัสเซียเท่านั้น แต่ยังถือเป็นเมืองประวัติศาสตร์เมืองหนึ่งในอดีตมีจุดเด่นคือ ปืนใหญ่จักรพรรดิ์ (The Emperor Cannon) ปืนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก ระฆังของพระเจ้าซาร์ ระฆังยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีความสูงถึง 98 เมตร ถัดมาเป็น มหาวิหารเซนต์เบซิล (St. Basil Cathedral) สร้างขึ้นโดยกษัตริย์อีวานในศตวรรษที่ 16 มีโดม 8 โดมล้อมรอบ สร้างความแปลกตาเป็นอย่างมาก และปิดท้ายของรายการฯ วันแรกด้วย จตุรัสแดง (Red Square) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมจิตใจของชาวรัสเซีย ซึ่งอดีตเคยเป็นจัตุรัสทางการค้า คำว่า สีแดง ในภาษารัสเซีย หมายถึง ความสวยงามและมั่งคั่ง เหมาะกับสถานที่นี้อย่างลงตัว.....วันแรกของการเดินทางเที่ยวชมกรุงมอสโก แม้จะทำให้ผู้คนที่มาจากเมืองร้อนต้องเดินตัวสั่นเทาเพราะความหนาว แต่ความอลังการของสถาปัตยกรรมอันงดงามและที่เป็นที่สุดของโลก ก็ทำให้ทีมงานหลงใหล และลืมความหนาวเย็นไปได้เหมือนกัน
สำหรับวันที่สองของการเดินทาง เป็นการเยี่ยมชมวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนชาวรัสเซีย เริ่มต้นด้วย การเยือนอนุสาวรีย์พระเจ้าปีเตอร์มหาราช (Peter the Great Monument) ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์แรกของรัสเซีย สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์ท่านในฐานะผู้สร้างเมืองนี้ หลังจากนั้นทางรายการฯ ได้เดินทางสู่ ถนนอารบัต (Arabat Street) เพื่อสัมผัสประเพณีและวิถีชีวิตของผู้คน รวมทั้งเลือกซื้อของฝาก และของ ที่ระลึก อาทิ ตุ๊กตาแม่ลูกดก (ตุ๊กตารัสเซีย) โดมจำลอง โบสถ์และวิหารจำลอง
หลังจากนอนพักเอาแรงท่ามกลางอากาศติดลบกว่า 10 องศาเซลเซียส ทางรายการฯ ได้เริ่มการเดินทางในวันที่สาม ด้วยการชมเมือง เซนต์ เซอร์เจียส (St. Sergius) ห่างจากกรุงมอสโกประมาณ 71 กิโลเมตร เมืองนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองแห่งศาสนา มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และความเชื่อของชาวคริสต์นิกายออโทด็อกซ์สืบต่อกันมายาวนาน พร้อมยังได้ชมโบสถ์อัสสัมชัญ (Cathedral of the Assumption) โบสถ์ที่เก่าแก่และสำคัญที่สุด ภายในผนังโบสถ์ตกแต่งด้วยภาพเฟลสโกและภาพไอคอน 5 ชั้น (ภาพเคารพบูชาที่สำคัญทางจิตวิญญาณ) อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะ นอกจากนั้น ทางรายการฯ ยังได้มีโอกาสลองขึ้น เมโทร (Metr) สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีความงดงามของสถาปัตยกรรม หลังจากนั้นพวกเราก็หาอะไรรองท้อง แล้วก็ขึ้นรถไฟแบบตู้นอน สุดหรูหรา โออ่า และสวยงาม (เหมาะกับคณะของพวกเราเป็นอย่างมาก) เพื่อเดินทางไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขอบอกว่าอากาศหนาวมากๆ ติดลบ 12 อาศาเซลเซียสเลยทีเดียว
เริ่มต้นวันที่สี่ของการเดินทาง วิวภายนอกหน้าต่างรถไฟ เหล่าต้นไม้ถูกปกคลุมด้วยหิมะสุดลูกหูลูกตา ได้รับไออุ่นจากอาทิตย์ยามเช้า แสงอ่อน ๆ ตกกระทบกับหิมะและแอ่งลำธาร ช่างเป็นภาพที่สวยงามสุดแสนประทับใจจริงๆ เมื่อรถไฟเทียบชานชลาเป็นสัญญาณเริ่มต้นการออกเดินทางเยี่ยมชม เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) อดีตนครหลวง เมืองแห่งศิลปะ พระราชวัง และประวัติศาสตร์อันยาวนาน เปิดฉากความหนาวเหน็บด้วยการเดินเล่นบน แม่น้ำเนวา (Neva River) ซึ่งขณะนั้นกลายเป็นน้ำแข็งพอดี
แม่น้ำเนวา ถือเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านเมืองนี้ 2 ฟากฝั่งแม่น้ำ เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมสำคัญๆ และมีชื่อเสียงหลายแห่ง ถือได้ว่าวิถีชีวิตของผู้คนชาวรัสเซียจะผูกพันกับวิหารและโบสถ์ต่างๆ เป็นอย่างมากเรียกได้ว่าเข้าไปถึงจิตวิญญาณเลยก็ว่าได้ ขณะที่ทางทีมงานรายการฯ ชมความงามอยู่ ปรากฏว่า มีคู่ บ่าวสาวประกอบพิธีสมรสแบบสุดแสนโรแมนติกถึง 3 คู่ทีเดียว (ทำให้ทีมงานฯ อดอิจฉาไม่ได้) จากนั้นได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมพระราชวังต่างๆ อาทิ พาเลซ สแควร์ (Palace Square) เป็นลานกว้าง บริเวณตรงกลางเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่พระองค์ ต่อด้วย มหาวิหารเซนต์ ไอแซ็ค ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและเป็นวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก หลังจากนั้น รายการฯ ได้เยี่ยมชม พระราชวังแคทเธอรีน (Catherine Palace or Tsarskoye Selo) อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 41 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่พระนางแคทเธอรีนใช้เวลาไปกับการทำงานและพักผ่อนส่วนตัว และปิดท้ายวันแห่งความประทับใจ ด้วยการชมการแสดงโฟล์คแดนซ์พื้นเมืองภายในพระราชวังนิโคลัส ซึ่งทีมงานต้องประหลาดใจตั้งแต่ก้าวเข้าไปในโรงละคร นักดนตรีบรรเลงเพลงท้องถิ่นต้อนรับผู้ชมแต่ละชาติ ทั้งญี่ปุ่น จีน รวมถึงเพลงลอยกระทง (ฟังแล้วคิดถึงคนที่บ้านจัง) ยังไม่หมดความเซอร์ไพร้ส เมื่อทีมงานได้รับเชิญให้รับประทานอาหารค่ำใต้แสงเทียนภายในพระราชวังแบบส่วนตัว ทั้งไข่ปลาคาร์เวียร์ และ ว้อดก้าที่ขึ้นชื่อของรัสเซีย และยังมีเหล่านักแสดงใจดีมาร้องเล่นเต้นระบำสร้างความครึกครื้นสุดแสนประทับใจ มื้อเย็นมื้อนี้ ทำให้พวกเราอิ่มทั้งท้องและอิ่มทั้งใจ กลับโรงแรมนอนหลับฝันดี
ในที่สุดวันสุดท้ายของการเดินทางท่องเที่ยวรัสเซียก็มาถึง เริ่มต้นด้วยการชมศิลปะใน พระราชวังฤดูหนาวเฮอร์มิทาจ (Hermitage) ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เนื่องจากมีการจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินชั้นนำ อาทิ แวนโก๊ะ เลอนัว เรมแบรนท์ เป็นต้น ทำให้พวกเรารู้จักศิลปินเอกของโลกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังได้ชื่นชมผลงานอันประณีตและสวยงามระดับโลกอีกด้วย หลังจากที่พวกเราดื่มด่ำกับความสวยงามของผลงาน และพระราชวังอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็เดินทางต่อไปยัง ซูโลจิคอล มิวเซียม (Zoological Museum) พิพิธภัณฑ์สัตว์และแมลงต่างๆ เพลิดเพลินกับการศึกษาวงจรชีวิตของพืชและสัตว์นานาชนิด อาทิ ซากแมมมอธที่สตั๊ฟเอาไว้ หมีขาว ลิงนับร้อยๆ ชนิด เป็นต้น แต่ที่เด็ดสุดๆ เห็นจะเป็น ม้าและสุนัขของพระเจ้า ปีเตอร์มหาราช (Peter the Great) กษัตริย์ชาวรัสเซียสมัยศตวรรษที่ 18 ปิดท้ายด้วยการเข้าชมการแสดงบัลเล่ต์ ที่ดีที่สุดชุดหนึ่งของโลกในเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ณ โรงละครมารินสกี้ย์ (Marinsky Theatre)
หลังจากนั้นพวกเราก็เก็บของใส่กระเป๋า (ที่สำคัญคือของฝาก) แล้วเหินฟ้าด้วยสายการบินไทยกลับสู่เมืองไทย พร้อมเก็บความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่พวกเราได้ไปเยือน รวมทั้งเรื่องราวและภาพความประทับใจต่างๆ อันเป็นที่สุดของโลกจากดินแดนที่มีชื่อว่า “สหพันธรัฐรัสเซีย” ไว้ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป....
สำหรับการบินไทย สายการบินแห่งชาติให้บริการจากกรุงเทพฯ ไปมอสโก จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยผู้ที่สนใจเดินทางสามารถติดต่อตัวแทนท่องเที่ยวใกล้บ้าน
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
อังคณา ธีรพรอมรรัตน์
ประชาสัมพันธ์รายการ “มอร์นิ่ง ทอล์ค”
บริษัท ธนบุรินทร์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด
โทรศัพท์ 02 634 3281-2 โทรสาร 02 231 6230
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net