กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--ปภ.
นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า นับวันการเกิดภัยพิบัติในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ หรือภัยจากการกระทำของมนุษย์ มีแนวโน้มทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเกิดธรณีพิบัติภัยเมื่อปลายปี 2547 ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างกว้างขวาง ในการนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ (กปอ.) และได้รับการสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดทำโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการฉุกเฉินภัยพิบัติแห่งชาติ ในวันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2548 ณ โรงแรมรามาการ์เดนส์ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว จะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง ประสบการณ์ตรงในการบริหารจัดการภัยพิบัติกรณีเกิดคลื่นยักษ์ใน 6 จังหวัดภาคใต้ โดย นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันฯ , ระบบการจัดการภาวะฉุกเฉินแบบบูรณาการ โดย นายแพทย์สุรจิต สุนทรธรรม ผู้เชี่ยวชาญพิเศษสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นอกจากนี้ จะมีการแบ่งกลุ่มย่อย ดังนี้ ระบบบัญชาการ ระบบการติดต่อสื่อสาร การสนธิกำลัง การฝึกซ้อมแผนและอื่นๆ เพื่อระดมความคิดเห็น ให้ได้ประเด็นที่จะทำให้แผนปฏิบัติการฉุกเฉินภัยพิบัติแห่งชาติ มีความสมบูรณ์มากที่สุด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม 200 คน ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญจากฐานข้อมูลของกรมป้องกันฯ 120 คน ผู้เชี่ยวชาญจากการรับสมัครทางหนังสือพิมพ์และ Website 30 คน ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง 20 คน และเจ้าหน้าที่กรมป้องกันฯ 30 คน ทั้งนี้ จะได้นำผลสรุปที่ได้รับจากการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ นำไปกำหนดกรอบงาน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้ประชุมกลุ่มย่อย เพื่อร่วมกันวิเคราะห์และกำหนดกรอบงาน รายละเอียด องค์ประกอบต่างๆที่เกี่ยวข้อง และจากนั้นจะนำกรอบงานที่ได้จากการประชุมกลุ่มย่อย ไปให้ผู้เชี่ยวชาญร่างคู่มือการปฏิบัติการตามแผนป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งชาติ ให้มีความสมบูรณ์ และนำไประดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในสังคมอีกครั้ง ก่อนที่จะนำเสนอขอความเห็นชอบจากประชุมคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ (กปอ.) และคณะกรรมการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งชาติ (ปพร. ชาติ) หากเห็นชอบแล้ว กรมป้องกันฯ จะเผยแพร่ให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้นำไปใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติในกรณีที่เกิดสาธารณภัย หรือภาวะวิกฤติ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม คงต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนอีกทางหนึ่ง ให้เอาใจใส่ มีจิตสำนึกด้านความปลอดภัย และรู้จักเตรียมตัวให้พร้อม หากได้รับการประกาศเตือนการเกิดภัยจากภาครัฐ จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของท่าน และครอบครัวของท่านต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
โทร./โทรสาร.0-2243-0674 e-mail : public@ disaster.go.th--จบ--