กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก และสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย จัดอบรมหลักสูตรการกู้ภัยสารเคมี สารพิษและวัตถุอันตรายบนท้องถนน เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับความรู้ด้านการป้องกันอุบัติภัยจากสารเคมี พร้อมแนะวิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดภัยจากสารเคมี เพื่อลดผลกระทบและความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
นางจิระพงศ์ อิทธิภักดิ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนน ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีแนวโน้มซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะอุบัติภัยจากสารเคมีที่เกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากความประมาท และการไม่มีความรู้ในการจัดการและการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติภัยสารเคมี ดังนั้น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา จึงได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก สมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย จัดอบรมหลักสูตรการกู้ภัยสารเคมี สารพิษและวัตถุอันตรายบนท้องถนน ณ ศูนย์ฝึกอบรมการดับเพลิงกู้ภัยราชประชา อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยผู้เข้ารับ การอบรมจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ สาธารณสุข ตำรวจ(ภูธร/ทางหลวง) และหน่วยกู้ภัย เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเรียนรู้วิธีปฏิบัติตน เมื่อประสบเหตุหรือพบเห็นเหตุการณ์การเกิดสารเคมีรั่วไหล การเกิดเพลิงไหม้ การระเบิดของสารเคมีในระหว่างขนส่ง ตลอดจนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากอุบัติภัยสารเคมีในระดับหนึ่ง
นางจิระพงศ์ กล่าวต่อไปว่า หากท่านเป็นบุคคลแรกที่พบเห็นเหตุการณ์อุบัติภัยสารเคมี ควรหาผู้บาดเจ็บหรือหมดสติ ในระยะห่างอย่างน้อย 50 เมตร ทางด้านเหนือลม หากประเมินแล้วสามารถช่วยผู้บาดเจ็บได้โดยไม่เสี่ยงอันตรายให้รีบเคลื่อนย้ายไปในที่อากาศบริสุทธิ์ แจ้งหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินของท้องที่พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่จำเป็น เช่น สถานที่เกิดเหตุ ประเภทของรถบรรทุกสารเคมี รูปร่างภาชนะบรรจุ หมายเลขสหประชาชาติ จำนวนผู้บาดเจ็บ สภาพแวดล้อมใกล้เคียง เป็นต้น อย่าขับรถผ่านกลุ่มควันสารเคมี เพราะยานพาหนะเป็นแหล่งกำเนิดประกายไฟ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ห้ามก่อให้เกิดประกายไฟใดๆ ในบริเวณ ใกล้จุดเกิดเหตุ เนื่องจากอาจมีไอระเหยของสารเคมีหรือก๊าชที่ติดไฟได้ในบริเวณนั้น ควรกั้นเขตอันตรายเบื้องต้นในรัศมี 75 เมตร หากไฟไหม้ให้กั้นเขตอันตรายในรัศมี 150 เมตร เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทีมปฏิบัติการฉุกเฉิน ที่จะเข้ามาระงับเหตุในจุดที่ปลอดภัยกั้นบุคคล ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้พื้นที่อันตราย แจ้งเตือนประชาชนให้อพยพเคลื่อนย้ายออกจากบริเวณที่มีกลุ่มก๊าซหรือไอระเหยสารเคมีหนาแน่น ถ้าพบว่าสารเคมีรั่วไหลลงท่อระบายน้ำ คู คลอง ควรแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ ห้ามเหยียบบนของเหลวที่รั่วไหล และหลีกเลี่ยง การสัมผัสสารเคมี ห้ามเปิดท้ายรถที่ประสบภัย เนื่องจากอาจมีไอระเหยของสารเคมีรั่วไหลออกมา ทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้