กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
คุ้นเคยกันดีมาตั้งแต่เด็ก สำหรับวิตามินซี ที่มีอยู่ในผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย แต่เคยทราบไหมว่า คุณค่าวิตามินซี มีดีมากกว่าที่คิด เพราะให้ประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพและความงาม สถาบันฝึกอบรมและการเรียนรู้ อาวียองซ์ อะคาเดมี โดย ภ.ญ. สุภาภรณ์ ฤกษ์พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ อาวียองซ์ จึงไขความลับของคุณค่าวิตามินซี และการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาฝากเป็นเกร็ดความรู้
ภ.ญ. สุภาภรณ์ ฤกษ์พูลสวัสดิ์ กล่าวว่า “ทราบกันดีว่าวิตามินซี ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดกันมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากสมัยก่อนที่ยังไม่ค้นพบประโยชน์ของวิตามินซีนั้น มีประวัติว่านักเดินเรือ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในท้องทะเล ขาดแคลนอาหารประเภทผักและผลไม้สดรับประทาน มักจะป่วยด้วยอาการเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม เยื่อบุผิวเป็นจ้ำแดง และบางรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต จนต่อมาศัลยแพทย์ชาวสก็อตแลนด์ได้ค้นพบว่าการรับประทานผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้มและมะนาว สามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิดได้ และทำให้การเกิดโรคลดลงอย่างได้ผล จากนั้นมาจึงมีการค้นคว้า วิจัย จนค้นพบประโยชน์ของวิตามินซีมากมาย ไม่เพียงแต่ด้านสุขภาพ อาทิ ป้องกันโรคหวัด โรคลักปิดลักเปิด แต่ยังให้ผลดีต่อความงามด้านผิวพรรณด้วย อาทิ ช่วยสร้างสารเซราไมด์ ที่ช่วยปกป้องรักษาความชุ่มชื้นที่ผิวชั้นนอก , ช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ลดการเกิดริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อย , มีส่วนช่วยในการสร้างเส้นเลือดฝอยที่อยู่ระหว่างชั้นผิว ช่วยนำส่งสารอาหารหล่อเลี้ยงผิว นอกจากนั้นยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิดความผิดปกติของเม็ดสีผิวที่ทำให้เกิดความหมองคล้ำรวมถึงปกป้องการทำร้ายผิวจากรังสียูวีในแสงแดด ช่วยให้ผิวแลดูเปล่งประกายอย่างมีสุขภาพดีอีกด้วย ด้วยประโยชน์เหล่านี้จึงทำให้ปัจจุบันทำให้มีการนำวิตามินซีมาใช้ในทั้งในทางการแพทย์และเครื่องสำอางอย่างแพร่หลาย”
“น่าเสียดายที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างวิตามินซีขึ้นเองได้ การรับวิตามินซีสู่ร่างกายเพื่อประโยชน์แก่สุขภาพและความงามนั้น จึงต้องได้จากการรับประทานอาหารเท่านั้น ส่วนการทาภายนอก สามารถทำได้ แต่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบสูตรในการนำส่งวิตามินซีลงสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากวิตามินซีจะเสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อถูกแสง ความร้อนหรือความชื้น วิธีหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นนวัตกรรมที่ใช้ในทางเภสัชกรรม ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับการนำส่งยาทางผิวหนัง โดยทำให้อยู่ในรูปของ
ไมโครสปอนจ์ (Microsponge) ซึ่งเป็นอนุภาคเล็กๆ ที่มีรูพรุน สามารถเก็บกักและห่อหุ้มสารที่ต้องการนำส่งและค่อยๆ ปลดปล่อยออกมาเมื่ออนุภาคนั้นอยู่บนผิว สารสำคัญจะค่อยๆ ซึมลงสู่ชั้นผิวแต่ไม่ผ่านเข้าสู่ภายในร่างกาย โดยวิธีการนี้นอกจากจะช่วยรักษาความคงตัวของวิตามินซีแล้วยังสามารถควบคุมการปลดปล่อยวิตามินซีแบบต่อเนื่องยาวนานได้ระยะเวลาหนึ่งได้ จึงสามารถนำส่งคุณค่าของวิตามินซีสู่ผลลัพธ์ของผิวเปล่งประกายอย่างมีสุขภาพดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“ส่วนวิธีดูผิวว่าเปล่งประกายสุขภาพดี ทีมนักวิจัยชาวฝรั่งเศส ได้ประเมินว่าควรมีองค์ประกอบของลักษณะผิวด้วยกัน 4 อย่าง คือ 1.โทนสีผิว (Color Tone) ควรออกโทนชมพู ซึ่งบ่งบอกถึงการไหลเวียนเลือดใต้ผิวที่สมบูรณ์ 2.ความกระจ่าง (Luminosity) สะท้อนแสงที่ตกกระทบแลดูเปล่งปลั่ง 3.ความสว่าง (Brightness) มีลักษณะของโทนที่สว่างเพิ่มขึ้นแบบสม่ำเสมอจากโทนสีเดิมทำให้มองเห็นสีผิวที่สดใสขึ้น 4.ความใส (Transparency) ดูเรียบเนียน บางใสคล้ายผิวเด็ก”
ความเปล่งประกายของผิวอย่างมีสุขภาพดีคงจะไม่เป็นปริศนาที่ต้องหาคำตอบอีกต่อไป หากรู้จักวิธีการดูแลผิวและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และที่สำคัญอย่างลืมที่จะสร้างความเปล่งประกายจากภายในไปด้วยกัน...
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300
คุณสุจินดา , คุณแสงนภา , คุณชินนารี