กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--บีโอไอ
บอร์ดบีโอไอเห็นชอบนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล วางเงื่อนไขใหม่ให้ลงทุนทั้งประกอบรถยนต์ ผลิตเครื่องยนต์ และผลิตชิ้นส่วน วงเงินไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท โดยให้สิทธิประโยชน์เต็มที่ ยกเว้นเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 8 ปี และอากรขาเข้าเครื่องจักรในทุกเขตที่ตั้ง
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ว่า เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างฐานการผลิตรถยนต์ประเภทใหม่ ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่ประชุมจึงเห็นชอบนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล โดยกำหนดเงื่อนไขในการขอรับส่งเสริมการลงทุนดังต่อไปนี้
ผู้ขอรับส่งเสริมจะต้องเสนอการลงทุนเป็นโครงการรวม (Package) ประกอบด้วย โครงการประกอบรถยนต์ การผลิตเครื่องยนต์ และการผลิตหรือจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ และมีขนาดการลงทุนของโครงการรวมไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งการประกอบรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วน โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและยกเว้นภาษีเงินได้ไม่เกิน 8 ปีในทุกเขตที่ตั้ง ทั้งการประกอบรถยนต์ (จำกัดวงเงินยกเว้นไม่เกินมูลค่าลงทุนของโครงการ) การผลิตเครื่องยนต์ และการผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ
นอกจากนี้ และจะต้องมีปริมาณการผลิตจริงไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป จะต้องเป็นรถยนต์ที่มีคุณสมบัติด้านการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงไม่เกิน 5.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ด้านสิ่งแวดล้อมจะต้องมีมาตรฐานมลพิษ EURO 4 หรือสูงกว่า และมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยจากท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร ส่วนด้านความปลอดภัย จะต้องมีคุณสมบัติในการป้องกันผู้โดยสาร กรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าและด้านข้างของตัวรถ ตามมาตรฐาน UNECE Reg.94 และ Reg.95 ตามลำดับ
สำหรับเงื่อนไขการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์นั้น จะต้องมีการผลิตชิ้นส่วนหลักของเครื่องยนต์อย่างน้อย 4 ใน 5 ชิ้น ได้แก่ Cylinder Head, Cylinder Block, Crankshaft, Camshaft และ Connecting Rod และจะต้องมีการผลิต Cylinder Head, Cylinder Block และ Crankshaft โดยอย่างน้อยจะต้องมีการผลิตในขั้นตอนการ Machining
ทั้งนี้ บริษัทที่สนใจลงทุนโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล จะต้องยื่นคำขอรับส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 นี้