กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--PRdd
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาการรายงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นที่มีการขยายตัว เพียง 0.4% ต่อปี หรือ 0.1% ต่อไตรมาส ซึ่งต่ำกว่าที่คาดว่า จะขยายตัว 2.3% ต่อปี และ 0.6% ต่อไตรมาส ได้กลายเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ข้อมูลเศษฐกิจของฝั่งสหรัฐที่ออกมาล่าสุดยังสะท้อนถึงความอ่อนแออย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว หากสหรัฐยังไม่สามารถแก้ปัญหาการว่างงานที่มีอยู่ในระดับสูงได้แล้ว คงเป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นหากสถานการณ์ของตลาดแรงงานสหรัฐยังเป็นเช่นนี้ความเสี่ยงต่อการเกิดสภาวะถดถอยอีกครั้งของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญของทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยให้สามารถขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยาวต่อไป นอกจากนี้แล้วเริ่มมีประเด็นการสะสมทองคำเพื่อรองรับช่วงเทศกาลแต่งงานในประเทศอินเดียเข้ามาจึงกลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้
สำหรับสัปดาห์นี้ทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนระยะกลางที่ได้ซื้อทองคำไว้แล้วให้หาจังหวะทำกำไรบริเวณแนวต้านสำคัญ 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อออกมาดูความชัดเจนของตลาดก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง แต่หากราคาทองคำมีการย่อตัวลงมาก่อนก็ยังคงแนะนำให้นักลงทุนเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติมได้ ในส่วนของกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ทางวายแอลจีคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,200 — 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับแนวต้านของการเคลื่อนไหวดังตารางที่ 1
ตาราง 1: สรุปแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญในสัปดาห์นี้
แนวรับ2 แนวรับ1 แนวต้าน1 แนวต้าน2
1,200 1,220 1,243 1,265
ที่มา : YLG Bullion & Futures