กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--กิมเอ็ง
กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับกับภาวะเศรษฐกิจปีนี้ เปิดตัวโครงการ Training 4 U สำหรับนักลงทุน เตรียมขยายฐานนักลงทุนกลุ่มใหม่ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินสายให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีเป้าหมายในการขยายฐานนักลงทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ต้องการสร้างนักลงทุนกลุ่มใหม่ขึ้นในตลาด บริษัทฯ จึงได้ร่วมกับโครงการ SET VISIT ของตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดโครงการ Training 4 U ขึ้นเพื่อสร้างฐานนักลงทุนกลุ่มใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เน้นให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างเพียงพอ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบในด้านความรู้เรื่องการลงทุน บริษัทฯ ยังมีความมั่นใจว่าตลาดหลักทรัพย์ไทยยังขยายตัวได้และมีความน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุน เมื่อพิจารณาค่า P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทยขณะนี้มีไม่ถึง 8 เท่า ในขณะที่ค่า P/E ของตลาดต่างประเทศมีถึง 12 — 18 เท่า นอกจากนี้ ปัญหาความไม่แน่นอนของสถานการณ์การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันอาจจะเป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ ที่ต้องการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แบบลงทุนระยะยาวและมีความรู้อย่างเพียงพอได้เข้ามาเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานที่ดีและมีราคาไม่สูงนัก โดยพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มใหม่นี้ต้องการความเสี่ยงน้อยกว่ากลุ่มนักลงทุนเดิม และเชื่อมั่นว่าตลาดทุนไทยจะแข็งแกร่งขึ้นได้ถ้าหากมีการขยายฐานนักลงทุนใหม่ๆ ขึ้นอย่างจริงจัง”
โครงการ Training 4 U เป็นโครงการที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรแรกที่จะเปิดบรรยายมีชื่อว่า Nano CFA เหมาะกับผู้ที่ไม่เคยมีความรู้ในหุ้นมาก่อน หรือนักลงทุนหน้าใหม่ มุ่งเน้นให้ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานการลงทุนในตลาดหุ้น เทคนิคการจัดสรรเงินออมเพื่อการลงทุน ลงทุนอย่างไรให้ได้ดี เป็นต้น นอกจาก ”หลักสูตร Nano CFA” แล้ว จะมีหลักสูตรต่อเนื่อง อาทิ “หลักสูตร Nano MBA 1 : วิเคราะห์ธุรกิจ” และ “Nano MBA 2 วิเคราะห์การเงินและประเมินค่า” “หลักสูตรการวิเคราะห์หุ้นด้านเทคนิค” และ “การบริหารองค์กรเพื่อเพิ่มมูลค่า” ซึ่งจะช่วยสร้างเทคนิคการลงทุนในหุ้นแบบนักลงทุนมืออาชีพอีกด้วย โครงการนี้กำหนดจัดทุกเดือนตลอดทั้งปี และจัดขึ้นเพื่อนักลงทุนทั่วๆ ไป ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ก็สามารถลงทะเบียนเข้าฟังได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ครั้งแรกกำหนดจะจัดขึ้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ที่ห้องศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ และยังมีโครงการจัดที่ต่างจังหวัดตลอดทั้งปี เช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ หาดใหญ่ นครราชสีมา และชลบุรี เป็นต้น ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนสำรองที่นั่งเข้าฟังได้ที่เว็บไซค์ของบริษัทฯ ที่ www.kimeng.co.th หรือเว็บไซค์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สำหรับปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดด้านซื้อขายหลักทรัพย์ได้เป็นอันดับหนึ่ง และต่อเนื่องเป็นปีที่ห้า ส่วนแผนด้านการตลาดในปีนี้นั้น บริษัทฯ จะเน้นด้านการขยายฐานลูกค้า ทั้งลูกค้าบุคคลและสถาบัน โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าสถาบันจากเดิมที่มีอยู่ 15% เป็น 25% เพื่อให้สัดส่วนลูกค้าของบริษัทฯ เป็นลูกค้าบุคคล 75 % และสถาบันที่ 25 % ในขณะที่ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าอยู่ที่ลูกค้าบุคคล 80 % ลูกค้าสถาบัน 20 % นอกจากนี้ บริษัทฯ จะรุกธุรกิจด้านอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์ใหม่ของทางการในเรื่องค่าคอมมิชชั่นซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตที่คิดที่ 0.15 % อันจะทำให้แนวโน้มนักลงทุนหันมาสนใจการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น ซึ่งโปรแกรมอินเทอร์เน็ตของบริษัทฯ ที่ชื่อว่า KETrade อันเป็นโปรแกรมที่บริษัทฯ ได้มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี่มาตลอด มีหน้าจอที่ใช้งานง่าย แม้นักลงทุนที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนก็สามารถเข้าใจ และใช้งานเป็นในเวลาอันรวดเร็ว และได้รับความสะดวกฉับไวในการส่งคำสั่งซื้อขาย โดยปี 2549 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดด้านอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 17.24 % ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตทั้งตลาดฯ และคาดว่าในปีนี้บริษัทฯ จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดด้านอินเทอร์เน็ตเป็น 20% เนื่องจากคาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดด้านอินเทอร์เน็ตน่าจะขยายตัวมากขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งการขยายตัวของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้กระจายไปทั่วประเทศ ทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เป็นที่นิยมมากขึ้น ทั้งโทรศัพท์มือถือ พ๊อคเก๊ตพีซี และพีดีเอ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งค่าบริการผ่าน GPRS ที่ถูกลงและมีโปรโมชั่นที่จูงใจก็มีผลให้นักลงทุนหันมานิยมซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น เช่น โปรโมชั่น KIM ENG Stock Info และ KIM ENG SIM ที่บริษัทฯ ได้ร่วมกับ AIS ที่ให้ลูกค้าดูข้อมูลหุ้นแบบ Real Time ได้แบบไม่จำกัดในราคาสุดประหยัด ประกอบกับบริษัทฯ ได้ปรับปรุงโปรแกรมซื้อขายอยู่ตลอดเวลาให้มีรูปแบบการใช้งานที่ตอบสนองกับอุปกรณ์หลากหลายประเภทและความต้องการของลูกค้า”
สำหรับงานด้านวาณิชธนกิจ เนื่องจากบรรยากาศของการนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะนี้ค่อนข้างซบเซาและผันผวน บริษัทฯ จึงยังคงเตรียมทำด้วยความระมัดระวัง ทั้งในเรื่องการเลือกหุ้น การกำหนดราคาและการเลือกจังหวะการเสนอขายที่ดี ซึ่งขณะนี้ก็เตรียมหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เพียงพอและมีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ ทั้งที่เป็นหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในจังหวะที่เหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับธุรกรรมใหม่ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ อาทิ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivatives Warrant) และ SET50 Index Options เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มุ่งหวังพัฒนาตลาดเงินตลาดทุนในปีนี้ อีกทั้งยังมีแผนที่จะจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนขึ้นอีกด้วยซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งกับสำนักงาน กลต. และคาดว่าจะจัดตั้งได้ประมาณกลางปีนี้
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
โทร. 02-658-6300 ต่อ 7401 — 7403 และ 5180