กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--ปตท.
10 วัน ลดไปแล้ว 1.30 บาท นับเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 2 ปี ผลจากความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงในประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ทั้งสหรัฐฯ และจีน
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศข่าวดีแก่ผู้ใช้รถอีกครั้ง นับจากช่วงปีใหม่ ปตท. ได้ประกาศปรับลดราคาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 (ดีเซลลดลง 2 ครั้ง/ เบนซินเป็นครั้งที่ 3 และเป็นราคาต่ำที่สุดในรอบปี 2549-2550) โดย ปตท. จะปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินทุกประเภทลงอีก 40 สตางค์/ ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2550 (เวลา 05.00 น.) เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันในเขต กทม. และปริมณฑล เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 25.19
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 23.69
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 24.39
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 22.54
น้ำมัน พีทีที ไบโอดีเซล/ น้ำมันดีเซลปาล์ม-บริสุทธิ์ 22.04
โดยในวันนี้ (18 ม.ค.50) ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ระดับ 49.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 ลดลงที่ระดับ 58.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 64.26 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สาเหตุที่น้ำมันปรับลดลงมาเป็นผลจากการที่ นาย Ali Al-Naimi รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย แถลงว่าโอเปกไม่มีความจำเป็นต้องจัดการประชุมด่วน และจะรอประเมินมติการลดกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรลในวันที่ 1 ก.พ. 50 นี้ ก่อนการตัดสินใจครั้งต่อไป อีกทั้งความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของจีนมีการปรับลดลงทำให้โรงกลั่นต้องเน้นการส่งออกเพิ่มขึ้น ประกอบกับ รอยเตอร์ ได้คาดการณ์ว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบและสำเร็จรูปของสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์นี้จะมีการปรับเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนและกองทุนต่างเทขาย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ราคาเบนซินลดลงดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันยังมีความผันผวนสูง โดย International Monetary Fund (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกมาอยู่ที่ระดับ 52 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากการคาดการณ์เมื่อเดือนกันยายน 2549 ที่ระดับ 75.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ลดลงกว่า 23.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมืองในกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่อาจส่งผลต่อการส่งออก นโยบายรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันของโอเปกที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นได้ และสภาพอากาศในสหรัฐฯ ที่คาดว่าช่วงปลายสัปดาห์นี้จะหนาวเย็นขึ้น อาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อนมากขึ้น ซึ่ง ปตท. จะทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป นายชัยวัฒน์ กล่าวเสริมในตอนท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
โทรศัพท์ 0-2537-2537/ 2568
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรสาร 0-2537-2517