ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว (Developed market) น่ากังวลมากกว่าประเทศโลกเกิดใหม่ หรือ Emerging Market

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 25, 2010 08:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--บลจ.ธนชาต เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว กับประเทศกำลังพัฒนา จะฟื้นตัวด้วยอัตราช้าเร็วต่างกัน การฟื้นตัวที่ไม่พร้อมกันนี้ จะเป็นปัจจัยบวกและส่งผลดีต่อประเทศเกิดใหม่ หรือ Emerging Markets ปัญหาหนี้สินจำนวนมากมายของประเทศพัฒนาแล้วเป็นประเด็นที่น่ากังวล และระดับหนี้สินที่สูงของประเทศพัฒนาแล้วนี้จะเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ย ในประเทศเหล่านี้ด้วย ส่วนประเทศโลกเกิดใหม่หรือ Emerging Market ได้ผ่านวิกฤติมาแล้วและมีประสบการณ์ ในการลดภาระหนี้สินจำนวนมากของประเทศได้จนสัดส่วนหนี้สินของประเทศต่อ GDPลดต่ำลงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีปัญหาวิกฤติการเงินอยู่ตอนนี้ ประเทศ Emerging Market ที่มีหนี้สินไม่มากและมีศักยภาพดีเหล่านี้ เป็นเป้าหมาย ที่น่าลงทุน แม้วิกฤติการเงินจะทำให้การเติบโตลดลงทั่วโลก แต่ประเทศกำลังพัฒนาใน Emerging Markets น่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าในระยะยาว เนื่องจากมีปัจจัยภายใน คือ ความต้องการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นเข้ามา ช่วยชดเชยการส่งออกที่ลดลง สิ่งที่น่าจับตา คือ เงินลงทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศเกิดใหม่ หรือ Emerging Markets เหล่านี้จะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ที่ภาวะที่ราคาทรัพย์สินต่าง ๆ สูงขึ้นมาก หรือ Asset bubbles หรือไม่หากประเทศเหล่านี้ใช้นโยบายการเงิน ที่ผ่อนคลายนานเกินไป ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในยุโรปและจีน สำหรับปัญหาในยุโรป แม้จะทำให้ยุโรปมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าไปอีกนานพอควร แต่สำหรับปัญหา การขาดสภาพคล่องที่ตลาดกังวลกันนั้น ธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ได้มีมาตรการและกลไกที่จะป้องกันไม่ให้ เกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องระหว่างสถาบันการเงินไว้แล้วส่วนจีนนั้นรัฐบาลจีนเล็งเห็นความเสี่ยงและปัญหา ที่อาจจะเกิดจากการปล่อยให้เศรษฐกิจเติบโตแบบร้อนแรงต่อไปจีนซึ่งที่ผ่านมาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปล่อยสินเชื่อจำนวนมากเริ่มที่จะชะลอมาตรการดังกล่าวลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2009 แล้วการลดการเติบโตแบบ hard landing จึงไม่น่าจะเกิดขึ้นในจีน จากสภาพเหล่านี้ ทั้งปัญหาในยุโรปและจีน จึงไม่น่าจะนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจโลกแบบที่ตลาดกังวลกัน แต่กลับจะสร้างบรรยากาศให้ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่ลดลง และภาวะเช่นนี้ทำให้เห็นโอกาสในการลงทุน เนื่องจากความกังวลของตลาดจนเกินเหตุในยุโรปและจีน ทำให้มีการเทขายตราสารต่าง ๆ ออกมาในตลาดอย่างถ้วนหน้าโดยไม่แยกแยะตราสารดี ตราสารไม่ดีออกจากกัน จึงเป็นโอกาสในการลงทุน เพราะการเทขายดังกล่าว ทำให้มีของดี ราคาถูกให้เลือกลงทุนอยู่ในตลาด ค่าเงินสกุลหลัก ๆ ของโลก ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ยูโร และเยนน่าจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศ Emerging Markets แต่หากมองประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วด้วยกัน แม้ว่าค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ๆ แต่ดอลล่าร์น่าจะแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน และยูโร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ