BWG มั่นใจครึ่งปีหลังธุรกิจโตต่อตามอุตสาหกรรม หลัง Q2/53 โชว์ฟอร์มเจ๋งพลิกเป็นกำไร 13.95 ลบ.

ข่าวทั่วไป Wednesday August 25, 2010 11:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--IR PLUS "สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" มั่นใจครึ่งปีหลัง BWG ยังโชว์ฟอร์มเยี่ยม หลังอุตสาหกรรมของประเทศยังขยายตัวต่อเนื่องแถมคุมต้นทุนอยู่หมัด หวังปีนี้พลิกจากขาดทุนกว่า 43 ลบ.มาเป็นกำไรสำเร็จ หลังโค้งสองโชว์ผลงานสุดยอดกำไรพุ่งกว่า 159.16% พลิกจากขาดทุน 23.58 ล้านบาท มาเป็นกำไร 13.95 ลบ.หนุนผลงานครึ่งปีแรกพลิกจากขาดทุน 19.50 ลบ.มามีกำไร 8.78 ลบ.เผยครึ่งปีหลังพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ-ประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ย้ำไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในครึ่งหลังของปี 2553 ว่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาได้ หลังจากที่ได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มนิ่ง ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้กากอุตสาหกรรมมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจึงส่งผลบวกต่อบริษัทฯ ผู้ประกอบธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมด้วย โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ขยายตัวเกิน 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 592.05 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจการบริหารและจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร นอกจากนั้น บริษัท อัคคีปราการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยประกอบกิจการให้บริการเผาทำลายขยะ สิ่งปฏิกูลและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วทุกชนิด รวมถึง การให้บริการปรับคุณภาพของเสีย สิ่งปฏิกูล และวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว เพื่อเป็นพลังงานทดแทนหรือวัตถุดิบทดแทน เริ่มมีผลประกอบการเป็นกำไรตั้งแต่ไตรมาส 4/2552 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 2/2553 ดังนั้น จากปัจจัยบวกดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จึงคาดว่าในปีนี้มีโอกาสพลิกผลประกอบการมาเป็นกำไรได้สำเร็จ จากขาดทุน 43 ล้านบาท ในปีก่อน “ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะหากปัจจัยทางการเมืองนิ่ง จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมและทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ดีขึ้นด้วย ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจปลายน้ำ เมื่อโรงงานอุตสาหกรรมดีขึ้น มีกากอุตสาหกรรมมากขึ้น บริษัทฯ ย่อมได้รับผลดีด้วย ส่วนปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยความเข้าใจผิดหรือเกิดจากความไม่เข้าใจก็ตาม ซึ่งเคยเป็นอุปสรรคในการดำเนินงานปัจจุบันก็ได้แก้ไขไปหมดแล้ว ปีนี้จึงมีโอกาสที่บริษัทฯ จะมีผลผลประกอบการพลิกเป็นบวกได้ และในฐานะที่เป็นผู้บริหารก็พร้อมจะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกคน แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจการบริหารและจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรนั้น ผู้ประกอบการต้องมีความจริงใจ รวมทั้งต้องตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและได้มาตรฐานด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน ซึ่งบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี” นายสุวัฒน์ กล่าวต่อถึงความสำเร็จของโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยให้กับเทศบาลนครนครราชสีมา มูลค่าโครงการ 412 ล้านบาทว่า มีความคืบหน้าไปด้วยดี และบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเตรียมเข้าประมูลงานในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันยังคงอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด ซึ่งคาดว่าภายในปลายปีนี้หรือต้นปี 2554 คงมีความชัดเจน ส่วนมูลค่าโครงการจะใกล้เคียงโครงการแรก คือ ประมาณ 300-500 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทเบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการงวด 3 เดือน ประจำไตรมาสที่ 2/2553 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ว่ามีกำไรสุทธิ 13.95 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.04 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 159.16 จากขาดทุน 23.58 ล้านบาท หรือ ขาดทุนหุ้นละ 0.07 บาท ส่งผลให้งวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 8.78 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.03 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 19.50 ล้านบาท หรือขาดทุนหุ้นละ 0.06 บาท สำหรับผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายปรับลดลง โดยในไตรมาสที่ 2/2553 มีรายได้รวม 174.63 ลบ. จากปีก่อนที่ทำได้ 147.17 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรม 146.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 49.28 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 97.07 ล้านบาท เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้ธุรกิจอุตสาหกรรมมีการผลิตมากขึ้น ส่งผลให้กาก อุตสาหกรรมมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ส่วนรายได้จากงานก่อสร้าง สำหรับไตรมาส 2 ของปี 2553 ทำได้จำนวน 25.67 ล้านบาท ลดลงจำนวน 21.98 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 46 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 47.65 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานในแต่ละงวดงานและที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ ในขณะที่รายได้รวมในงวด 6 เดือน สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2553 มีจำนวน 330.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 38.19 ล้านบาท หรือร้อยละ 13 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 292.29 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรมจำนวน 285.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 76.82 ล้านบาท หรือร้อยละ 37 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 208.43 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากงานก่อสร้างจำนวน 42.15 ล้านบาท ลดลงจำนวน 37.41 ล้านบาท หรือร้อยละ 47 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 79.56 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานในแต่ละงวดงานดังกล่าว ส่วนต้นทุนที่ลดลงมาจากต้นทุนบางส่วนเป็นต้นทุนคงที่ไม่ได้ผันแปรตามสัดส่วนรายได้ และบางส่วนลดลงจากการบริหารจัดการที่ดี โดยในไตรมาสที่ 2/2553 บริษัทฯ มีต้นทุนรวม 121.05 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีต้นทุนรวม 129.49 ล้านบาท ในขณะที่ค่าใช้จ่าย 32.85 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายรวม 38.06 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน บริษัทฯมีต้นทุนรวม 244.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีต้นทุนรวม 234.98 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวม 65.51 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายเท่ากับ 68.75 ล้านบาท จึงส่งผลให้ในงวดไตรมาสที่ 2/2553 และงวด 6 เดือนบริษัทฯ มีผลประกอบการเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นดังกล่าว ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี(ฟ้า) Tel. 02-554-9395 E-mail : jurarat@irplus.in.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ