กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--IR network
“เสนาดีเวลลอปเม้นท์”เดินหน้าลุยธุรกิจต่ออย่างมั่นใจ วางแผนเปิด 2 โครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้เป็นโครงการพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ และโครงการคอนโดมิเนียม BOI ย่านสุขุมวิท อีก 1 โครงการ ชูจุดแข็งที่ทำให้ทุกโครงการได้รับการตอบรับที่ดี เพราะมีการรีเสริชความต้องการของลูกค้าอย่างละเอียด และนำมาสร้างเป็นโครงการใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว ทำให้มั่นใจปีนี้ผลประกอบการขยายตัว 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังงวด 6 เดือนแรกโชว์กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องและยังคืนกำไรผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอีกด้วย พร้อมระบุแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ขยับตัวขึ้น ไม่ส่งผลกระทบธุรกิจ
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ ที่เน้นขยายฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปยังธุรกิจให้เช่าเพิ่มมากขึ้น สำหรับโครงการพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ พื้นที่ประมาณ 7,000 ตารางเมตร มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท (อยู่ระหว่างการพัฒนาแบบ) และเพิ่มโครงการคอนโดมิเนียม BOI ย่านสุขุมวิทอีก 1 โครงการ
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้นได้เปิดขายโครงการใหม่ 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเสนาแกรนด์โฮม โครงการเสนากรีนวิลล์- รังสิตคลอง 4 (เฟส 1) และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ คือโครงการเดอะคิทท์-แจ้งวัฒนะ
“ยังมีความมั่นใจว่าในปีนี้ผลประกอบการของ SENA จะขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้ได้คือเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อน โดยหัวใจสำคัญที่ทำให้ SENA สามารถครองใจลูกค้าเอาไว้ได้เนื่องจากความรับผิดชอบต่อลูกค้าทั้งในด้านการสร้างความประทับใจจากการดูแลบริการหลังการขาย และคุณภาพงานก่อสร้างที่ดี ซึ่งทุกครั้งก่อนที่จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ SENA จะทำการวิจัยอย่างละเอียด มีการหาข้อมูล วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อหาสิ่งที่ดี และเหมาะสมที่สุด โดยผลงานที่ได้จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อให้โครงการของ SENA สามารถตอบสนองการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์ได้อย่างแท้จริง โดยให้ชื่อแบบที่พัฒนาใหม่เหล่านี้ว่า Sena Design”
ต่อประเด็นแนวโน้มของดอกเบี้ยที่เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวเป็นขาขึ้นนั้น ดร.เกษรา กล่าวว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารและการจัดการของ SENA มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ มีนโยบายในการวางแผนดูแลระบบค่าใช้จ่ายเพื่อควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้นทุนทางการเงินอาจจะปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่เนื่องจากบริษัทมียอดเงินกู้ไม่มากนัก โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ต่ำมากอยู่ที่ระดับเพียง 0.48 เท่า จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และถึงแม้ดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะขยับขึ้น แต่โดยภาพรวมแล้วอัตราดอกเบี้ยยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งสถาบันการเงินส่วนใหญ่ก็ยังคงแข่งขันกันโดยการเน้นปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน
ดร.เกษรา กล่าวต่อว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 5-10% จากปีก่อน จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริงและมีกำลังซื้อค่อนข้างดีโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีความต้องการสูงมาก อีกทั้งคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ในส่วนของผู้ประกอบการจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น ขณะเดียวกันจากสภาพคล่องของสถาบันการเงินที่มีอยู่สูงมากในระบบ ส่งผลให้มีการปล่อยสินเชื่อผู้บริโภคมากขึ้นด้วย
ผลประกอบการรอบล่าสุดของ SENA ในงวดไตรมาส 2/2553 มีกำไรสุทธิ 63.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.59 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2552 ที่มีกำไรสุทธิ 60.11 ล้านบาท และสำหรับงวด 6 เดือนแรกปีนี้ยิ่งน่าประทับใจโดยมีกำไรสุทธิ 143.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.96 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 127.34 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ในช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สําหรับผลการดําเนินงานประจําปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.08522 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 57,523,500 บาท หรือคิดเป็น 40.0026% ของกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ตามงบการเงินรวมปี 2553 โดยกำหนดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 30 สิงหาคม 2553 และให้ รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับปันผลในวันที่ 31 สิงหาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 10 กันยายน 2553