กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือน 39 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมน้ำ และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-3 กันยายน 2553 พร้อมสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดภัย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศ กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลให้ทั่วทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย 39 จังหวัด ได้แก่ ตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี นครสวรรค์ หนองคาย อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา ชัยภูมิ ปราจีนบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี ระนอง ภูเก็ต กระบี่ พังงา และตรัง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย
โดยเฉพาะที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมน้ำ และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน เตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย แจ้งเตือนประชาชน และรายงานสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และ หากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ
นายอนุชา กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 39 จังหวัดให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากภาวะฝนตกหนัก หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้นเป็นสีเดียวกับสีดินบนภูเขา มีเสียงดังมาจากป่าต้นน้ำ เป็นต้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก หรือดินโคลนถล่มขึ้นได้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อ
ขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปภ.