ธนาคารไทยเครดิตบรรลุข้อตกลงกับธนาคารไทยพาณิชย์ในการเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น SICCO

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 1, 2010 11:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย เมื่อวานนี้ (31 ส.ค.53) ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) (“ธนาคารไทยเครดิต”) กลุ่มไทยประกันชีวิต ได้เข้าลงนามกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (“ธนาคารไทยพาณิชย์”) ในการทำสัญญาซื้อขายหุ้น บง.สินอุตสาหกรรม (“ซิกโก้”) โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อนที่สำคัญ ประกอบด้วย การได้รับความเห็นชอบในการทำรายการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (“ธปท.”) และการได้รับมติที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของซิกโก้ อนุมัติการควบรวมหรือการโอนขายกิจการของซิกโก้ ให้แก่ธนาคารไทยเครดิต รวมทั้งการอนุมัติการคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน เมื่อวานนี้ (31 ส.ค.53) ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) (“ธนาคารไทยเครดิต”) กลุ่มไทยประกันชีวิต ได้เข้าลงนามกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (“ธนาคารไทยพาณิชย์”) ในการทำสัญญาซื้อขายหุ้น บง.สินอุตสาหกรรม (“ซิกโก้”) โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อนที่สำคัญ ประกอบด้วย การได้รับความเห็นชอบในการทำรายการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (“ธปท.”) และการได้รับมติที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของซิกโก้ อนุมัติการควบรวมหรือการโอนขายกิจการของซิกโก้ ให้แก่ธนาคารไทยเครดิต รวมทั้งการอนุมัติการคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน การตัดสินใจของธนาคารไทยเครดิตเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของธนาคารไทยเครดิต ที่ต้องการเพิ่มขนาดของสินทรัพย์ ขยายฐานลูกค้าเงินฝากและสินเชื่อ ลดต้นทุนดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นคงแก่ธนาคารไทยเครดิต อีกทั้งยังเป็นการสนันสนุนนโยบายหลัก และมาตรการที่สำคัญของแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 ของธปท. และกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้สถาบันการเงินควบรวมกิจการ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการแข่งขันและการเข้าถึงบริการทางการเงินของประชาชน เพื่อขับเคลื่อน และพัฒนาระบบเศรษฐกิจโดยรวมให้มีความมั่นคง และมีเสถียรภาพ นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย กล่าวให้ความมั่นใจว่า “ความร่วมมือของ 2 สถาบันการเงิน จะทำให้ฐานลูกค้ารายย่อยเพิ่มมากขึ้น มีการเติบโตของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ เพิ่มฐานเงินฝาก และเงินกองทุน ภายใต้กลุ่มธุรกิจการเงินไทยเครดิตเพื่อรายย่อย โดยที่ผู้เกี่ยวข้อง (Stakeholders) ของซิกโก้ทุกกลุ่มจะได้รับการดูแลจากธนาคารไทยเครดิตด้วยดี กล่าวคือ พนักงานของซิกโก้จะได้รับสวัสดิการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และผลจากการควบรวมทำให้องค์กรมีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสให้หน้าที่การงานมีการเติบโตและมั่นคงมากขึ้น ลูกค้าเงินฝากจะได้รับการบริการอย่างดีเหมือนที่เป็นมา โดยธนาคารไทยเครดิตจะดูแลท่านเช่นลูกค้าของธนาคารไทยเครดิตให้สิทธิประโยชน์เท่าเทียมหรือดียิ่งขึ้น กับมีการให้บริการที่หลากหลายขึ้นจากธนาคารไทยเครดิตและกลุ่มไทยประกันชีวิต ลูกค้าสินเชื่อก็จะยังคงได้รับการบริการที่ดีเหมือนเช่นที่เป็นมา และธนาคารไทยเครดิต ก็จะเพิ่มการให้บริการในแนวทางที่ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายขึ้นไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องทางชำระเงิน ความคล่องตัวในการอนุมัติวงเงิน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สอดคล้องกับความต้องการและหลากหลายขึ้น แผนควบรวมธนาคารไทยเครดิตกับซิกโก้โดยการปรับโครงสร้างกิจการครั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากธปท. และผ่านมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของซิกโก้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ ที่ใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน โดยที่ธนาคารไทยเครดิตจะต้องได้การตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นของซิกโก้ ตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป ทั้งนี้ ธนาคารไทยเครดิตมีนโยบายที่จะคงสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียนของซิกโก้ต่อไป” และภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้น ธนาคารไทยเครดิตจะเกิดหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) ตามเกณฑ์การได้มาโดยการเข้ามามีอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญในนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นของกิจการอยู่ก่อนแล้ว (Chain principle) โดยธนาคารไทยเครดิตมีนโยบายที่จะคงสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียนของ บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) ไว้เช่นกัน ธนาคารไทยเครดิตคาดว่าการเสนอซื้อจะเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 โดยกลุ่มไทยประกันชีวิตซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะทำการเพิ่มทุนในธนาคารไทยเครดิตเพื่อสนับสนุนการทำรายการดังกล่าว ภายหลังการควบรวมโดยการปรับโครงสร้างกิจการ ธนาคารไทยเครดิตจะมีขนาดของสินทรัพย์กว่า 30,000 ล้านบาทและจะดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกในการขยายขอบเขตธุรกิจเพื่อรายย่อยต่อไป สำหรับซิกโก้ จะคงดำเนินธุรกรรมไปตามแผนควบรวมโดยการปรับโครงสร้างกิจการที่จะได้รับความเห็นชอบจากธปท. ซึ่งตามแผนพัฒนาฯระยะที่ 2 ซิกโก้จะต้องคืนใบอนุญาตบริษัทเงินทุนและปรับสู่การเป็นผู้ให้กู้ที่ไม่รับฝากเงิน และมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มฯ ต่อไป นายมงคล ลีลาธรรม กล่าวต่อไปว่า “การซื้อหุ้นจากธนาคารไทยพาณิชย์จะเป็นการซื้อหุ้นในคราวเดียวกันกับการเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทุกรายในระหว่างการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด โดยเป็นราคาและเงื่อนไขเดียวกัน ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อที่ 4 บาทต่อหุ้นเป็นราคาที่ประเมินจากการทำการตรวจสอบสถานะที่แท้จริงของกิจการ (Due diligence) กับการวิเคราะห์สถานภาพกับแนวโน้มการทำธุรกรรมของซิกโก้ ภายหลังแผนพัฒนาฯ ระยะที่ 2 ซึ่งมีข้อจำกัดทางด้านการรับฝากเงิน และการคืนใบอนุญาต โดยผู้ถือหุ้นจะได้รับคำแนะนำและความเห็นในเรื่องความเหมาะสมของราคาเสนอซื้อจากที่ปรึกษาการเงินอิสระของซิกโก้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อดังกล่าวอาจมีการปรับปรุงเพิ่มลดตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งจะมีการกำหนดราคาสุดท้ายก่อนการทำคำเสนอซื้อ” ท้ายที่สุด นายมงคล ลีลาธรรม ย้ำว่า “ราคาเสนอซื้อดังกล่าวเป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และขอเรียนเชิญผู้ถือหุ้นซิกโก้ทุกท่านให้เป็นลูกค้าผู้มีอุปการะคุณของธนาคารไทยเครดิต ซึ่งพร้อมที่จะให้บริการและดูแลผลประโยชน์ของท่านด้วยบริการทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้นของธนาคารไทยเครดิต” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2697-5454 e-mail: woraanong.u@tcrbank.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ