ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัย ๑๕ จังหวัดคลี่คลายแล้ว ๙ จังหวัด

ข่าวทั่วไป Wednesday September 1, 2010 14:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยในระหว่างวันที่ ๒๔ — ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ มีพื้นที่ประสบภัย ๑๕ จังหวัด ๕๐ อำเภอ ๑๖๐ ตำบล ๗๕๐ หมู่บ้าน ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ มุกดาหาร สระบุรี และนครนายก ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๒๘,๘๘๒ ครัวเรือน ๘๑,๗๒๓ คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ๘๗,๔๑๔ ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ๙ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน ๖ จังหวัด นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุ มินดอนเล ทำให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักและฝนตกชุกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ ๑๕ จังหวัด ๕๐ อำเภอ ๑๖๐ ตำบล ๗๕๐ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๑ คน ราษฎรเดือดร้อน ๒๘,๘๘๒ ครัวเรือน ๘๑,๗๒๓ คน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๙ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ๖ จังหวัด ดังนี้ น่าน น้ำในลำห้วยน้ำหินไหลเอ่อท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ ๓ อำเภอ ๘ ตำบล ๓๖ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอนาน้อย อำเภอสันติสุข และอำเภอปัว ราษฎรเดือดร้อน ๒,๙๘๔ ครัวเรือน ๙,๑๒๐ หมู่บ้าน ซึ่งในส่วนของอำเภอ นาน้อยจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้ ทั้งนี้ความเสียหายในอำเภอปัวอยู่ระหว่างการตรวจสอบ สุโขทัย น้ำในแม่น้ำยม ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรริมฝั่งแม่น้ำในพื้นที่ ๕ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรีสำโรงและกงไกรลาศ ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ เพชรบูรณ์ ในพื้นที่ ๔ อำเภอ ๑๒ ตำบล ๗๙ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอวิเชียรบุรี หล่มเก่า หนองไผ่ และวังโป่ง มุกดาหาร ในพื้นที่ ๗ อำเภอ ๓๕ ตำบล ๓๖๗ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองมุกดาหาร นิคมคำสร้อย ดอนตาล ดงหลวง คำชะอี ว่านใหญ่ และหนองสูง ราษฎรเดือดร้อน ๘,๘๒๗ ครัวเรือน ๒๒,๕๐๐ คน ต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ๑๑๖ ครัวเรือน ๔๖๑ คน ผู้เสียชีวิต ๑ ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย ๗๓,๑๖๔ ไร่ สระบุรี ในพื้นที่ ๕ อำเภอ ๑๖ ตำบล ๒๓ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี บ้านหมอ วิหารแดง หนองแค และแก่งคอย ซึ่งสถานการณ์ภายในอำเภอเมืองสระบุรีได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนอำเภอบ้านหมอ วิหารแดง และหนองแค พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ๘,๔๐๐ ไร่ และยังมีพื้นที่บางส่วนอยู่ระหว่างการสำรวจ นครนายก ในพื้นที่ ๒ อำเภอ ๘ ตำบล ราษฎรเดือดร้อน ๕๑ ครัวเรือน ๑๕๓ คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย ๕๐ ไร่ ได้แก่ อำเภอปากพลี และบ้านนา ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๗ สกลนคร เขต ๙ พิษณุโลก และเขต ๑๐ ลำปาง และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ในพื้นที่ประสบภัยประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดส่งเจ้าหน้าที่ ๓๗ คน พร้อมรถผลิตน้ำดื่ม ๒ คัน รถบรรทุกน้ำ ๓ คัน เรือท้องแบน ๑๒ ลำ สำหรับใช้ในการอพยประชาชนและขนย้ายทรัพย์สินไปยังพื้นที่ปลอดภัย รถบรรทุก ๒ คัน รวมทั้งรถบรรทุกติดปั่นจั่นและรถส่องสว่าง จำนวน ๒ คัน ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป ทั้งนี้ได้มีการสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง และเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกลให้พร้อม เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันเหตุการณ์ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ