กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--สตาร์ ซานิทารีแวร์
STAR โชว์ผลงานQ1/50 สุดเจ๋ง สวนกระเศรษฐกิจชะลอตัวสำเร็จ โชว์กำไร 6.14 ลบ.พุ่งขึ้น 566.59% จาก 1.08 ลบ.ในงวดเดียวกันปีก่อน แม้ว่ายอดขายจะมีอัตราการขยายตัวเพียง 15.37% ด้าน"ดร.สมชัย ว่องอรุณ" ระบุเป็นผลมาจากบริษัทส่งสินค้าใหม่ลงวางตลาดจับลูกค้าระดับกลางบน ดันมาร์จิ้นให้สูงขึ้น ประกอบกับมีออเดอร์จากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากหนุนกำไรโตตาม ประกอบกับสามารถควบคุมต้นทุน อย่างมีประสิทธิภาพหนุนอัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 42-46% คุยครึ่งปีหลัง พร้อมลุยผลิตสินค้าให้ทันกับความต้องการของลูกค้า มั่นใจปั๊มรายได้ทะลุ 300 ลบ.ตามเป้าได้แน่
ดร.สมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์ (STAR) เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/2550 ว่ากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 โดยในไตรมาส 1/2550 มีกำไรสุทธิ 6.14 ลบ.เพิ่มขึ้น 566.59% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2549 ที่มีกำไรสุทธิ 1.08 ลบ. สำหรับการปรับเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในครั้งนี้เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายสินค้า โดยในไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมีรายได้ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 15.37 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่1/2549 หลังจากที่บริษัทได้ส่งสินค้าที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ลงทำตลาดในระดับกลางบน ทำให้สามารถกำหนดราคาขายได้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันสินค้าใหม่ของบริษัทได้สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก จึงทำให้ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะลูกค้าจากต่างประเทศก็มีการส่งคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
" กำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ สาเหตุหลักมาจากการที่ STARส่งสินค้าใหม่ลงทำตลาดในระดับกลางบนที่ราคาขายค่อนข้างดี ประกอบกับสินค้าเป็นที่พึงพอใจของลูกค้า ทำให้มีออเดอร์เข้ามามาก ส่งผลให้ทั้งรายได้และกำไรขยายตัวตาม ประกอบกับบริษัทมีการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 42-46% และกำไรสุทธิเติบโตขึ้นกว่า 566% ดังกล่าว"
ดร.สมชัยกล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2550 คาดว่ารายได้ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจากบริษัทสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตได้มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับคำสั่งซื้อของลูกค้า จากก่อนหน้านี้บริษัทประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานจนไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันกับคำสั่งซื้อ แต่ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวได้เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่สองต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2550 และหากในช่วงเวลาดังกล่าวภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อจากรัฐบาล เชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจสุขภัณฑ์ในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น เมื่อรวมกับตลาดต่างประเทศที่ยังคงดีต่อเนื่องตลอดปีก็จะทำให้บริษัทได้รับผลดีอย่างชัดเจน
สำหรับแผนงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้ บริษัทมีแผนจะเข้าขยายตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นหลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างดีจากการทำตลาดในต่างประเทศ ด้วยการหันมาเจาะลูกค้ากลุ่มระดับกลางบน ที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการสินค้าสุขภัณฑ์ที่มีดีไซน์และทันสมัย มากกว่าต้องการใช้งานตามปกติ นอกจากนั้นจะเพิ่มการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้เป้าหมายมากขึ้น ด้วยการปรับกลยุทธ์ เพิ่มความถี่ในการส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย และได้ทำ Road Show ตาม Modern Trade (Home Pro) ทุกสาขาในเขต กทม. เพื่อสร้าง Brand Awareness ให้ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายยิ่งขึ้น นอกจากนั้นมีแผนจะจัดงานสัมมนาและสังสรรค์กลุ่มลูกค้าตัวแทนจำหน่าย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รวมทั้งจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อตอกย้ำ Brand “Star” ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เข้าร่วมงาน "สถาปนิก 50" ในช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และพบว่าทั้งกลุ่มลูกค้าและสถาปนิกให้การตอบรับสินค้า Starเป็นอย่างดี คาดว่าจะส่งผลดีผลประกอบการของบริษัทในอนาคต ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้จะมีรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 300 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 42% เมื่อเทียบกับปี 2549
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : ขนิษฐา โรจน์ทนง 081-8014290 / 083-9828244