กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยฐานะการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. (Government Finance Statistics : GFS) ในไตรมาสที่ 3 เกินดุลกว่า 2.5 แสนล้านบาท ส่งผลให้ 9 เดือนแรกดุลการคลังภาครัฐเกินดุลกว่า 6 หมื่นล้านบาท จากการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลและรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2553 (เมษายน — มิถุนายน 2553) ภาครัฐบาล (รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) มีรายได้ทั้งสิ้น 764,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว 135,022 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.4 จากการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่รายจ่ายภาครัฐบาลมีจำนวน 512,448 ล้านบาท ต่ำกว่าระยะเดียวกันปีที่แล้ว 24,306 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.5 ส่งผลให้ดุลการคลังภาครัฐบาลเกินดุลจำนวน 252,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 159,328 ล้านบาท
สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 ภาครัฐบาล มีรายได้ทั้งสิ้น 1,871,575 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 18.7 ของ GDP) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว 344,390 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.6 ขณะที่รายจ่ายภาครัฐบาลมีจำนวน 1,810,351 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้ว 62,779 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 ส่งผลให้ดุลการคลังภาครัฐบาลเกินดุลการคลังจำนวน 61,224 ล้านบาท (ช่วงเดียวกันปีที่แล้วขาดดุล 220,387 ล้านบาท)
นายสาธิต รังคสิริ สรุปว่า “การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นมากเป็นผลจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้รายได้ของ อปท. ที่รัฐบาลเก็บให้และแบ่งให้บนฐานภาษีของรัฐบาลเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงในทิศทางเดียวกันกับรายได้รัฐบาล และทำให้ดุลการคลังของภาครัฐในปีงบประมาณ 2553 นี้ เกินดุลในอัตราที่สูง”
รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จาก www.fpo.go.th
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3584