กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่าเศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2553 มีการเติบโตที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ แม้จะมีความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว และระดับหนี้สาธารณะยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิต
Mr. Andrew Colquhoun ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายจัดอันดับเครดิตประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของฟิทช์ กล่าวในงานสัมมนาประจำปี 2553 ของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ว่า “อันดับเครดิตของประเทศกำลังพัฒนาในแถบภูมิภาคเอเชียโดยทั่วไปได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกน้อยกว่าอันดับเครดิตของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคอื่น เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของพื้นฐานเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินในภูมิภาคเอเชียในช่วงปี 2540-2541” Mr. Colquhoun ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าอัตราการฟื้นตัวอาจชะลอตัวลงในช่วงหลังของปี 2553 และในปี 2554 เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วยังคงต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ลดลง อาจเพิ่มความท้าทายต่ออันดับเครดิตประเทศ
สำหรับในส่วนของสถาบันการเงิน Mr. Vincent Milton กรรมการผู้จัดการของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) และผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสถาบันการเงินให้ความเห็นว่า การเติบโตของสินเชื่อที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลงจะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ไทยมีกำไรสุทธิสูงขึ้นในปี 2553 และ 2554 หากเศรษฐกิจยังคงสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Mr. Milton ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ฟิทช์คาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ (ซึ่งทั้ง 3 ธนาคารมีอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศที่ ‘BBB+’/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) น่าจะยังคงแข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ฟิทช์ยังคาดว่าธนาคารกรุงศรีอยุธยา (อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ: ‘BBB’/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) น่าจะเริ่มมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเช่นกัน”
สำหรับธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค Mr Brett Hemsley กรรมการผู้จัดการและหัวหน้ากลุ่มธนาคารภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิคของฟิทช์ กล่าวว่า ฟิทช์มองว่าความเสี่ยงโดยรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศจีนเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของสินทรัพย์ ถึงแม้ที่ผ่านมาระบบธนาคารพาณิชย์ของเอเชียมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤติการณ์ทางการเงินของโลก และยังได้รับประโยชน์จากสภาวะการดำเนินงานที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
ในส่วนของธุรกิจโทรคมนาคมไทย คุณโอบบุญ ถิรจิต ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจภาคอุตสาหกรรมของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฟิทช์ยังมองว่า ความไม่แน่นอนทาง นโยบาย กฎหมาย และกฎระเบียบ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไทย คุณโอบบุญกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถึงแม้ว่าการออกใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาโครงสร้างของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ระดับหนี้สินของผู้ประกอบการอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง หากราคาประมูลของใบอนุญาตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ” อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าผู้ประกอบการรายใหญ่สองราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ: ‘BBB+’/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ: ‘BBB-’/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) จะมีฐานะการเงินที่สามารถรองรับการลงทุนที่เพิ่มขึ้นได้ โดยการเติบโตของรายได้จากการบริการที่ไม่ใช่เสียง (Non-voice revenue) จะช่วยให้กำไรจากการดำเนินงานของผู้ประกอบการปรับตัวดีขึ้นในระยะกลาง”
งานสัมมนาประจำปี 2553 ของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อมวลชนและนักลงทุน โดยมีเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คุณธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ให้เกียรติมาเป็นผู้กล่าวเปิดการสัมมนา และให้มุมมองในส่วนของกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาของตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทย
ติดต่อ:
Vincent Milton, Bangkok, +66 2 655 4759, vincent.milton@fitchratings.com;
Brett Hemsley, Tokyo, +81 3 3288 2656, brett.hemsley@fitchratings.com;
Andrew Colquhoun, Hong Kong, +852 2263 9938, andrew.colquhoun@fitchratings.com;
Obboon Thirachit, Bangkok, +662 655 4757, obboon.thirachit@fitchratings.com.