กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--ตลท.
ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการขยายฐานผู้ลงทุนบุคคล และเน้นไปที่การเพิ่มสัดส่วนผู้ลงทุนสถาบันให้เป็นร้อยละ 40 ในปี 2550 ซึ่งไม่สอดคล้องกับตัวเลขที่เกิดจริงในปี 2549 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 45 แล้วนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอชี้แจงว่า
1. ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นความสำคัญของผู้ลงทุนทุกประเภท และได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้ลงทุนเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มเพื่อให้การซื้อขายหลักทรัพย์เติบโตขึ้น โดยในส่วนของผู้ลงทุนบุคคล ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการตามแผนส่งเสริมการขยายฐานผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยทำงานร่วมกับบริษัทสมาชิกและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังดำเนินแผนการให้ความรู้ และส่งเสริมการลงทุนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึง การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูล และการจัดสัมมนาอบรมให้ความรู้ เพื่อสร้างฐานผู้ลงทุนที่มีคุณภาพ
2. สำหรับการตั้งเป้าหมายสัดส่วนผู้ลงทุนสถาบันนั้น เป็นการตั้งเป้าหมายเพื่อวางโครงสร้างสัดส่วนการซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนประเภทต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์ เติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ภายใต้ภาวะความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อการลงทุน ทั้งนี้ ได้พิจารณาโดยใช้ข้อมูลสัดส่วนการซื้อขายของผู้ลงทุนสถาบันเฉลี่ยในระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา (ระหว่างปี 2547 — 2549) ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 37 โดยแบ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบันในประเทศร้อยละ 10 และผู้ลงทุนต่างประเทศร้อยละ 27
สำหรับปี 2550 ซึ่งตั้งเป้าหมายสัดส่วนผู้ลงทุนการซื้อขายของสถาบันเป็นร้อยละ 40 จะประกอบด้วย ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศร้อยละ 13 และผู้ลงทุนต่างประเทศร้อยละ 27 ส่วนในปี 2552 ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายผู้ลงทุนสถาบันเป็นร้อยละ 50 นั้นจะเป็นการเพิ่มผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเป็นร้อยละ 20 และผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศเป็นร้อยละ 30
ทั้งนี้ การเลือกช่องทางการลงทุนของผู้ลงทุนบุคคล อาจเป็นผลให้สัดส่วนผู้ลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงไป ขึ้นอยู่กับความสนใจว่าจะมีการลงทุนโดยตรงผ่านบริษัทหลักทรัพย์ หรือลงทุนโดยอ้อมผ่านกองทุนรวมซึ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบัน
สำหรับสถิติการซื้อขายของผู้ลงทุนสถาบันพบว่าในปี 2547 ผู้ลงทุนสถาบันมีสัดส่วนการซื้อขายร้อยละ 29 ส่วนปี 2548 สัดส่วนการซื้อขายร้อยละ 38 และปี 2549 สัดส่วนการซื้อขายร้อยละ 45 โดยมีค่าเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ร้อยละ 37 ทั้งนี้ ในระยะที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดทุนหลายเหตุการณ์ ดังนั้น การกำหนดเป้าหมายของตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมุ่งสู่การวางโครงสร้างในระยะยาว ซึ่งจำเป็นต้องมีการพิจารณาข้อมูลและปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงปัจจัยและตัวแปรต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยในอนาคต