กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ดีแทค
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ประกาศเดินหน้าตามแผนการที่จะนำหุ้นดีแทคเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พร้อมดำเนินการนำยูคอมออกจากตลาด
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค กล่าวว่า “วันนี้นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญของดีแทค จากปัจจัยสนับสนุนรอบด้าน ทั้งส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น ฐานะทางการเงินและศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง ทำให้เรามั่นใจว่านี่คือจังหวะเวลาอันเหมาะสมที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนในประเทศไทยได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของดีแทค และการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ก็มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงความเชื่อมั่นของเราที่มีต่ออนาคตที่สดใสของบริษัทฯ แล้ว ยังเป็นการแสดงความมั่นใจที่เรามีต่อสภาวะเศรษฐกิจของไทยโดยรวมอีกด้วย”
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติแผนให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย (ตลท.) และยังได้อนุมัติแผนให้มีการเพิกถอน บริษัท ยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ ยูคอม ออกจาก ตลท. โดยแผนการดำเนินการดังกล่าวประกอบด้วย 2 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนแรก เริ่มจากการแตกมูลค่าที่ตราไว้ของบริษัทฯ ตามอัตราส่วน 1 ต่อ 5 หลังจากนั้นจะเสนอขายหุ้นเป็นจำนวน 222 ล้านหุ้น และในขั้นตอนที่สอง หลังจากดีแทคได้เป็นบริษัทจดทะเบียนใน ตลท. แล้ว บริษัทจะเสนอซื้อหุ้นของยูคอมทั้งหมด โดยแลกกับหุ้นดีแทคที่ออกใหม่ เมื่อกระบวนการนี้เสร็จสิ้นลง ยูคอมจะกลายเป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนใน ตลท. และมีสถานะกลายเป็นบริษัทลูกของดีแทค
“บริษัทฯ มั่นใจว่าแผนการดำเนินการในครั้งนี้จะได้รับการยอมรับจากผู้ถือหุ้นทั้งของดีแทคและยูคอมว่าเป็นธรรมและนำมาซึ่งประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เนื่องจากการนำเสนอขายหุ้นของดีแทคจะทำให้ผู้ถือหุ้นยูคอมสามารถนำหุ้นที่มีอยู่มาแลกเป็นหุ้นดีแทคได้ โดยหุ้นยูคอม 100 หุ้นจะสามารถแลกเป็นหุ้นดีแทคได้ประมาณ 39 หุ้น ณ ราคาพาร์ปัจจุบัน”
ทั้งนี้ หุ้น IPO จะเสนอขายให้แก่ทั้งประชาชนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน โดยการเสนอขายหลักทรัพย์ในประเทศครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้ลงทุนในบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับแนวหน้าที่มีลูกค้ากว่า 12 ล้านราย
และเมื่อได้จดทะเบียนใน ตลท. แล้ว ดีแทคจะได้รับการลดหย่อนภาษีรายได้นิติบุคคล 5% ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี ส่วนหุ้นของดีแทคในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST) ดีแทคมีแผนจะคงไว้เหมือนเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ดีแทคเป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสองตลาด (Dual Listing)
อย่างไรก็ตาม กระบวนการต่าง ๆ ดังกล่าว ยังต้องรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจากผู้ถือหุ้นของทั้งดีแทคและยูคอม ซึ่งหากแผนการนำดีแทคเข้าจดทะเบียนใน ตลท. บรรลุตามขั้นตอนที่ได้วางไว้ จะส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่าตลาดให้กับ ตลท. อย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อคำนวณจากราคาหุ้นปัจจุบันของดีแทคแล้ว จะเพิ่มมูลค่าให้กับ ตลท. ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ดีแทคเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่มีการจดทะเบียนใน ตลท. ในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา และเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการซื้อขายใน ตลท. ขนาดใหญ่ที่สุด 20 อันดับแรก
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ในฐานะที่ดีแทคเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศ ดีแทคได้ยึดมั่นต่อพันธะสัญญา (Long-term Commitment) ที่เรามีต่อการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด และวันนี้เราได้เข้าใกล้จุดหมายในการนำดีแทคมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยซึ่งดีแทคดำเนินธุรกิจอยู่ อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่จะให้ประชาชนไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต เราเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความโปร่งใสและยุติธรรมต่อผู้ถือหุ้นทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์และจริงใจต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ถือหุ้น นักลงทุน พนักงาน และประชาชนทั่วไป.
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net