กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
เพราะแฟชั่นไทยก้าวไกลในระดับอินเตอร์ ส่งผลให้อาชีพดีไซเนอร์ไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลและกำลังฮอตฮิตเป็นที่หมายปองของนักคิด นักสร้างสรรค์อยู่ไม่น้อย เหตุนี้ กระทรวงพาณิชย์ นำโดย นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมการส่งออกจัดโครงการ “เดอะ ดีไซเนอร์” (The Designer) ฝันตามคิด ชีวิตมีดีไซน์ ซึ่งเป็นการแข่งขันเพื่อค้นหา พัฒนาศักยภาพนักออกแบบหน้าใหม่ ให้ก้าวสู่อาชีพดีไซเนอร์ที่ใฝ่ฝัน โดยได้เปิดรับสมัครและคัดเลือกตัวแทนจาก 4 ภาค จำนวนกว่า 300 คน และผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกเพียง 52 คน และล่าสุด ได้ตัดสินคัดเลือกให้เหลือเพียง 12 คนสุดท้าย เพื่อเข้าสู่การแข่งขัน “เดอะ ดีไซเนอร์” ในรูปแบบเรียลิตี้โชว์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มออกอากาศสัปดาห์ละครั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน — 14 พฤศจิกายนศกนี้ โดยผู้เข้าแข่งขันจะได้ร่วมเวิร์คช็อปกับกูรูด้านแฟชั่น, ท้าทายกับโจทย์สร้างสรรค์เพื่อการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าในรูปแบบต่างๆ, พัฒนาแนวความคิดใหม่ และนำเสนอทักษะความเป็นไทยถ่ายทอดสู่ผลงานการดีไซน์ โดยภายในงานได้มีการใชว์ผลงานของผู้ผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายที่สามารถตอบโจทย์โดยการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าและดีไซน์โททัลลุคให้กับตุ๊กตา ผ่านวัสดุคุณภาพต่ำในเวลาจำกัด มาร่วมจัดแสดง ณ พารากอน สตูดิโอ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “การออกแบบเป็นกระบวนการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอุตสาหกรรมพื้นฐานเป็นอย่างมาก ยิ่งในภาคธุรกิจสิ่งทอ การออกแบบแฟชั่นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยต่อยอดให้ใยผ้าธรรมดากลับกลายเป็นผลงานมีเอกลักษณ์ และสวยงามทันสมัย และในฐานะที่ไทยมีความพร้อมตั้งแต่ด้านวัตถุดิบและการผลิต การมุ่งส่งเสริมพัฒนาบุคลากรด้านการออกแบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการออกแบบไทยสามารถเติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลก โดยโครงการ “เดอะ ดีไซเนอร์” เป็นการแข่งขันที่นอกจากจะเฟ้นหานักออกแบบที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติแล้ว ยังมุ่งพัฒนาความรู้ ความสามารถ จรรยาบรรณ จริยธรรม ตามนโยบาย “พาณิชย์สร้างสรรค์ คนไทยเข้มแข็ง” รวมทั้งเป็นแบบอย่างในการสร้างแรงบันดาลใจแก่นักออกแบบรุ่นใหม่ต่อไป การแข่งขันครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่เข้าถึงทุกสายตาประชาชน ด้วยการออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ แต่ละสัปดาห์จะมีโจทย์ที่แตกต่างแฝงด้วยคุณค่าเรื่องการประยุกต์ใช้วัสดุอุปกรณ์ การใช้เอกลักษณ์ไทย และโจทย์เซอร์ไพรส์ที่ท้าทายความสามารถให้ร่วมติดตาม ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ เสมือนผู้ชมทุกท่านเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน จึงนับเป็นแนวทางใหม่ในการส่งเสริมแฟชั่นไทยให้เป็นที่จับตามอง”
ก่อนจะได้ 12 ผู้เข้าแข่งขัน ได้มีการคัดเลือกผ่านการออดิชั่น และการมอบโจทย์การออกแบบและตัดเย็บโดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำภายในเวลาจำกัดเพียง 2 ชั่วโมง เพื่อทดสอบเป็นด่านแรก ปิดท้ายด้วยการสัมภาษณ์รายบุคคล ซึ่งปรากฏว่าได้ 12 ผู้ท้าชิงสุดท้ายที่จะร่วมในโครงการ “เดอะ ดีไซเนอร์” ในรูปแบบเรียลิตี้โชว์ ดังนี้
บุคลิกเด่นชัดกับภาพลักษณ์โดดเด่น มิวสิค - นายพิทวัส จันทศร อายุ 18 ปี ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาออกแบบแฟชั่นผ้าและเครื่องแต่งกาย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตพระนครใต้ ชั้นปีที่ 1 เผยว่า “กว่าจะผ่านเข้าสู่รอบ 12 คนสุดท้าย รู้สึกยากพอสมควร โดยเฉพาะวันนี้ที่ต้องตัดเย็บชุดจริงกับตุ๊กตาบาร์บี้ โดยทำออกมาเป็นชุดไหล่เลี่ยงสีกรมท่า มีสายสีชมพูคาดให้ดูมีลูกเล่น ความเด่นอยู่ความเนี้ยบของการตัดเย็บ เห็นแพทเทิร์นชัด มีรายละเอียดสวมใส่ได้จริงแม้จะย่อขนาด เช่น การตีเกล็ดให้เข้ารูป ยากที่สุดเป็นการทำไส้ไก่ เพราะขนาดเล็กมาก คาดว่าการแข่งขันนี้จะให้ประสบการณ์เปิดโลกกว้างด้านการออกแบบให้ตนเอง”
ผู้ที่เชื่อมั่นและมีความมั่นใจในตนเองสูง เบียร์ — นายเฉลิม อินทลักษณ์ อายุ 22 ปี ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกาย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เผยว่า “ผลงานวันนี้ต้องใช้ไหวพริบมากในการดัดแปลงผ้าคุณภาพต่ำมาใช้ผลิตผลงาน ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบผ้าแข็งๆ อยู่แล้ว บวกกับอารมณ์ในขณะนั้น เหมือนสายฟ้ากำลังฟาด จึงทำออกมาเป็นเดรสสั้นสีขาว คอกลม เก๋ด้วยผ้าสีดำมาประดิษฐ์เป็นลวดลายคล้ายฟ้าผ่ามาประดับพาดมาด้านหน้า เด่นที่คัตติ้งเรียบร้อย ใช้ฝีมือการเย็บจริงที่ดูคลาสสิก และละเอียด เชื่อว่าการผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายน่าจะช่วยฝึกทักษะด้านการออกแบบของตนเองให้ดียิ่งขึ้น”
หนุ่มที่โตมาท่ามกลางครอบครัวที่ทำธุรกิจเสื้อผ้า ยอด — นายศิรัส ตันติยาพงศ์ อายุ 27 ปี จบการศึกษาจากคณะมัณฑนศิลป์ สาขาสาขาวิชาออกแบบเครื่องแต่งกาย มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบันประกอบอาชีพดีไซเนอร์ ฟรีแลนซ์ เผยว่า “ไอเดียชุดนี้มาจากการเห็นวัสดุแล้วนึกถึงฟ้าและดวงดาว จึงนำเส้นใยสังเคราะห์มาทำเป็นก้อนเมฆ และใช้เลื่อมปักเป็นตัวแทนดวงดาว ขึ้นฟอร์มอิสระเหมือนก้อนเมฆที่โดนสายลมพัด มีความลุ่ย ฟุ้ง ความยากอยู่ที่การใช้เลื่อมเย็บปักกับเส้นใยสังเคราะห์ กับการแข่งขันนี้ ตั้งใจมาสมัคร และถ้าผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายก็พอใจที่สุดแล้วครับ”
หนุ่มหน้าใสที่ชื่นชอบการออกแบบ แบงค์ — นายสุธร เศรษฐมังกร อายุ 21 ปี ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบสิ่งทอ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จ.เชียงใหม่ เผยว่า “ผลงานในวันนี้อยากทำออกมาให้ดูมีสีสัน ผสมกับตุงซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวเหนือ จึงใช้เทคนิคการซ้อนผ้า แล้วตัดให้เห็น 2 สีสันเหลือบกัน ข้อดีคือผ้ามีความแข็งจึงทำให้กระโปรงมีความโป่งพองได้รูปกำลังดี ความเด่นที่ชนะใจกรรมการจึงน่าจะเป็นฟอร์มของงาน ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนคนอื่นๆ คิดว่าเวทีนี้น่าจะให้ประสบการณ์และฝึกทักษะการออกแบบให้พัฒนายิ่งขึ้นครับ”
หนุ่มชั่วโมงบินสูง เกียรติ — นายเกียรติกร เจริญพานิช อายุ 28 ปี ปัจจุบันเป็นนักศึกษาสถาบันราฟเฟิลส์ ดีไซน์ เผยว่า “โจทย์ในวันนี้ที่ต้องนำผ้าคุณภาพต่ำ มาทำเสื้อผ้าบาร์บี้ ส่วนตัวเป็นคนมือหนัก ผ้าซับในเย็บยาก ลุ่ยง่ายและเป็นรู จึงแก้ปัญหาโดยการจับเดรปผ้า แล้วเล่นเทกเจอร์ ด้านในกระโปรงมีตาข่ายลูกไม้แซมออกมา เป็นชุดคอกเทลสั้นไหล่เบี่ยง ปักเลื่อมบนรอยเย็บ ความยากอยู่ที่การคัตติ้งให้พอดีกับหุ่นซึ่งเล็กมาก โดยการแข่งขันครั้งนี้คาดหวังเรื่องการหาจุดแข็งของตนเองแล้วนำไปพัฒนาต่อมากที่สุด”
สาวอักษรศาสตร์ที่มีหัวใจรักแฟชั่น ผู้เดินตามฝันอย่างที่ต้องการ มะเหมี่ยว — น.ส.สุธิษณา เลิศสุขประเสริฐ อายุ 27 ปี ปัจจุบันเป็นนักศึกษาสถาบันชนาพัฒน์ เผยว่า “ชุดนี้มีคอนเซ็ปต์มาจากการหาบเร่ของแม่ค้า ที่จะมีการถ่วงน้ำหนัก และมีการผูกสินค้าไว้มากมายที่หาบเร่ เหมือนกับลักษณะของชุดที่มีจะมีการจับเดรป มีการผูก และเลือกสีที่หลากหลาย ใช้ผ้าที่ให้ความรู้สึกตาสบายมาใช้ ชุดจึงออกโทนสีเขียว อุปสรรคของการทำคิดว่าเป็นเรื่องเวลาและผ้าที่ได้มา อย่างไรก็ตาม คิดว่าการผ่านเข้ามาสู่เวทีนี้จะให้ประสบการณ์ที่มีค่าแก่ชีวิตค่ะ”
สาวกรุงเทพฯ ที่พกความมั่นใจมาเต็มที่ สุ่ย — น.ส.อภิสรา สารคุณประดิษฐ์ อายุ 19 ปี ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่น ชั้นปีที่ 2 เผยว่า “ชุดนี้ได้ไอเดียมาจากกระต่ายซึ่งเป็นสัตว์นำโชคของหนู และคิดถึงตอนเด็กๆ ที่ตัดชุดให้ตุ๊กตา จึงเลือกนำผ้าใยสังเคราะห์สีขาวมาใช้เป็นหลัก และใช้เทคนิคการจับเดรปของไทยขึ้นโครงให้น่าสนใจเพื่อให้เกิดเอกลักษณ์ โชว์ตะเข็บการเย็บ ความยากในการทำคือขนาดของหุ่นซึ่งเล็กมาก ทุกอย่างจึงต้องย่อส่วนลงมา ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่ได้จากโครงการนี้น่าจะเป็นครูสอนให้เราพัฒนาตนเองในอนาคต”
หนุ่มใต้คาแรกเตอร์ชัดเจน อั๋น — นายวรวุฒิ วิศพันธุ์ อายุ 19 ปี ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลศรีวิชัย สงขลา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ ชั้นปีที่ 1 เผยว่า “แนวคิดชุดนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ได้มาจากการจักสานเสื้อกระจูด ผสมกับการผูกผ้า โดยเลือกใช้สีที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิงคือสีม่วงและชมพู ผสมผสานสีดำที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งแต่ยังน่าทะนุทะนอม เพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบด้วยการออกแบบเป็นเดรสที่ใช้เทคนิคการพันผ้า มีการผูกปม แม้เวลาจะน้อยแต่พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ผ่านพ้นไปให้ดีที่สุด คาดหวังว่าสิ่งที่ผมนำเสนอไปจะแสดงศักยภาพเด็กใต้ให้คนไทยทั่งประเทศได้เห็นครับ”
ตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือฉบับสมบูรณ์ ดุ๊กดิ๊ก — นายวรรณกร อุ่นวิเศษ อายุ 21 ปี ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่น ชั้นปีที่ 4 เผยว่า “ชุดนี้เป็นชุดกลางคืนสไตล์ไฮเอนด์ ในรูปแบบผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบความหรูหรา ผสมผสานโครงสร้างเสื้อผู้หญิง ให้ลุคสง่างาม เทคนิคมาจากการจับเดรปที่ดึงแนวคิดการมัดประดจมอกของหญิงไทยโบราณมาใช้ซ้อนไปมา เติมความหวานด้วยผ้าโครงและผ้าลูกไม้ เป็นชุดอีฟวินิ่ง กราวน์ เลือกใช้ผ้าสีดำที่บ่งบอกความคลาสสิคและโก้หรูในเวลาเดียวกัน สำหรับผมเวทีนี้คือประสบการณ์จากการทำงานจริง แก้ปัญหาจริง ได้ซึมซับความรู้เพื่อกลับไปพัฒนาตนเองเพื่อเป็นดีไซเนอร์ที่ดีต่อไป”
หนึ่งคนที่มีผลงานน่าสนใจมาก แมนดี้ — นายชนะพล เล็กประเสริฐ อายุ 20 ปี ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่น ชั้นปีที่ 3 เผยว่า “ก่อนอื่นดูจากวัสดุ เนื้อผ้าที่ได้ รวมถึงความแข็งความนุ่ม แล้วจึงคิดแบบ โดยทำเป็นชุดแยกชิ้น ท่อนบนเป็นเสื้อที่ผสมผสานความร่วมสมัยกับความเป็นไทย ผ่านแบบเสื้อที่เป็นแนวโอต์กูตูร์ตกแต่งลวดลายกนกไขว้ทับหน้าอก ช่วงเอวใช้ผ้าลูกไม้ ส่วนกระโปรงทรงสอบดูร่วมสมัย ผ่านการเลือกใช้สีโมโนโทน สะท้อนความคลาสสิค คิดว่าการแข่งขันครั้งนี้น่าจะเป็นหนึ่งในการผลักดันศัยภาพของตนเองทางหนึ่ง”
สาวหมวยสดใสร่าเริง หยินมี่ — น.ส.นภัสณพชร สนณ์ณกิตตน์กุล อายุ 28 ปี จบการศึกษาจากคณะศิลปะและการออกแบบ สาขาวิชาแฟชั่นดีไซน์ มหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบันประกอบอาชีพอิสระ เผยว่า “ตัดเย็บชุดนี้จากแนวคิดของใบลาน วัสดุธรรมชาติของไทยที่สมัยก่อนเป็นของเล่นที่อยู่ใกล้ตัวเราซึ่งวันนี้หลายคนหลงลืมไป นำสีของใบลานถ่ายทอดเป็นสีเขียวที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ ใช้เทคนิคการตัดเย็บที่เป็นผ้าชิ้นมาต่อกันรอบตัว ออกแบบเป็นเดรสที่มุ่งเน้นให้สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน ดูสมาร์ทโดยไม่ต้องเป็นกางเกง ปัญหาในวันนี้คือเวลาน้อย แต่พยายามเต็มที่ ปกติไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้ว เพราะกลัวผิดหวัง แต่จะพยายามทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด เช่นการแข่งขันครั้งนี้ก็บอกกับตัวเองว่าต้องทำให้เต็มที่ทุกครั้งค่ะ”
ปิดท้ายที่เจ้าของกิจการฝีมือดี วัช — นายวัชรดล อริยเมธกุล อายุ 36 ปี จบการศึกษาจากคณะมัณฑนศิลป์ สาขาสาขาวิชาออกแบบเครื่องแต่งกาย มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบันประกอบอาชีพดีไซเนอร์ ฟรีแลนซ์ “ดีไซน์ชุดนี้จากความคิดและจินตนาการของตนเอง ที่ชื่นชอบการเดรปปิ้งเป็นส่วนตัว และเป็นสิ่งที่ตนถนัด สไตล์ชุดเป็นแนวกรีกที่มีลูกเล่นความโดดเด่นที่การถ่วงผ้า เหมาะกับผู้หญิงวัยทำงาน ที่ต้องออกงานสังคมหรือปาร์ตี้ ใช้สีดำเพราะให้ลุคที่มีรสนิยม สง่างาม แต่คลาสสิค ภาพรวมคือมินิมอลสไตล์ น้อยแต่เก๋นั่นเอง ถามถึงความยากของการออกแบบน่าจะอยู่ที่ผ้า เพราะการเดรปปิ้งคุณภาพผ้าก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย กับวันนี้ที่มาถึงจุดนี้ ดีใจและตื่นเต้น เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำมากๆ ครับ”
แน่นอนว่าหลังจากประกาศโฉมหน้า 12 ผู้ท้าชิง เพื่อเข้าสู่โครงการ “เดอะ ดีไซเนอร์” ในรูปแบบเรียลิตี้โชว์ ผู้แข่งขันจะต้องเข้าสู่แฟชั่น สตูดิโอเพื่อทำเวิร์คช็อปร่วมกัน เพื่อพัฒนาทักษะการออกแบบตามแต่ละโจทย์ โดยลงพื้นที่หาแหล่งวัตถุดิบอย่างจริงจัง ตลอดจนสเก็ตช์แบบ สร้างแพทเทิร์น ตัดเย็บ และนำเสนอผ่านนางแบบบนรันเวย์จริง ในวีคลี่ แฟชั่น โชว์ สัปดาห์ละครั้ง โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาตัดสิน ผู้ที่มีคะแนนน้อยที่สุดจะถูกคัดออกสัปดาห์ละ 1 คน ส่วนผู้ที่มีคะแนนสูงสุดหรือ “แชมเปี้ยนออฟเดอะวีค” จะได้สิทธ์พิเศษในการไม่ถูกคัดออกในสัปดาห์ต่อไป เมื่อถึงสัปดาห์ตัดสิน (สัปดาห์ที่ 8) ผู้แข่งขันจะเหลือเพียง 5 คนสุดท้าย ซึ่งจะต้องนำเสนอความคิดและฝีมือออกมาอย่างมืออาชีพภายใต้โจทย์สุดหิน เพื่อค้นหาสุดยอดดีไซเนอร์หน้าใหม่ โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยเกียรติยศพร้อมเงินรางวัล 200,000 บาท, รองชนะเลิศอันดับ 1
และ 2 ได้รับเงินรางวัล 150,000 และ 100,000 บาท ตามลำดับ นอกจากนี้ ทั้ง 3 คนที่ได้รับรางวัลจะได้เข้าร่วมปฏิบัติงานจริงกับทีมดีไซเนอร์ของบริษัทในเครือ Jaspal Group เป็นระยะเวลา 1 ซีซั่น (6 เดือน)
ร่วมตามติดชีวิตดีไซเนอร์คนใหม่ ในโครงการ “เดอะ ดีไซเนอร์” และเป็นกำลังใจให้พวกเขาและเธอทั้ง 12 คน ตามล่าหาความฝันพร้อมกัน ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทุกวันอาทิตย์ เริ่มออกอากาศเทปแรกในวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายนศกนี้ เวลา 21.30 — 22.30 น. หรือชมไฮไลท์ประจำสัปดาห์ก่อนโชว์ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.55 น. — 11.58 น. เริ่ม 20 กันยายน 2553 เป็นต้นไป
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.02-434-8300, 0-2434-8547
คุณสุจินดา , คุณแสงนภา , คุณปิติยา