กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--ปชส.จร.
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2550 นี้ นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) และการประชุมหารือกับประเทศคู่เจรจา (สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น) ณ กรุงบันดาเสรี เบกาวัน ประเทศบรูไนฯ
การประชุมครั้งนี้จะมีการหารือในหลายประเด็น ได้แก่ ประเด็นเศรษฐกิจในข้อบทของกฎบัตรอาเซียน ซึ่งกฎบัตรอาเซียนนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของอาเซียน จะเป็นเสมือนธรรมนูญของอาเซียนที่จะวางกรอบทางกฎหมายและโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการจัดตั้งประชาคมอาเซียน หรือ AEC ภายในปี ค.ศ. 2015 รวมถึงการพิจารณาให้ความเห็นชอบประเด็นข้อเสนอของที่ประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน ครั้งที่ 11 ที่จะให้มีแถลงการณ์ระดับผู้นำอาเซียนให้ AEC Blueprint มีผลผูกพันทางกฎหมาย และเป็นเอกสารแนบท้ายในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 13 ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ พิจารณารูปแบบการปรับปรุงข้อผูกพันชุดที่ 5 ภายใต้การเจรจากรอบความตกลงบริการของอาเซียน และตารางเวลาสำหรับการเปิดตลาด สำหรับประเทศสมาชิกเดิม และประเทศสมาชิกใหม่
นางสาวชุติมา กล่าวต่อว่า จะมีการหารือถึงความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับประเทศนอกอาเซียน เพื่อรับทราบสถานะและให้แนวทางการเจรจา FTAs ต่างๆ ของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา โดยเฉพาะกับญี่ปุ่น และอินเดีย รวมทั้งเตรียมการประชุม AEM-EU และ AEM-METI โดย AEM-EU จะประกาศเริ่มการเจรจา FTA ASEAN-EU ได้ในการประชุมครั้งนี้ หากนายปีเตอร์ แมนเดลซั่น กรรมาธิการการค้าของ สหภาพยุโรป ได้รับ mandate จากที่ประชุมรัฐมนตรีของสหภาพยุโรป แต่หากไม่สามารถขอ mandate ได้ สหภาพยุโรป แจ้งท่าทีว่าจะดำเนินการจัดทำการเจรจาสองฝ่ายกับประเทศสมาชิกอาเซียนรายประเทศต่อไป สำหรับ AEM-METI จะพิจารณาให้แนวทางกับคณะเจรจาอาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อสรุปการเจรจาความตกลงการค้าสินค้าได้ภายในปีนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับแนวทางการลดภาษีที่ทั้งสองฝ่ายยังมีท่าทีที่แตกต่างกันอยู่
ส่วนเรื่องการดำเนินงานในกรอบความร่วมมืออาเซียนลุ่มน้ำโขงจะมีการประชุมเพื่อรับทราบความเห็นของจีนเกี่ยวกับการโอนย้ายการประชุมระดับรัฐมนตรีในกรอบอาเซียนลุ่มน้ำโขง มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจะหารือแนวทางการดำเนินงานต่อไป